Page 18 - รวมอารยธรรมเกือบเสร็จ
P. 18
๑๔
ทรงปฏิเสธเพราะทรงเห็นว่าการปฏิรูปการปกครองตามที่คณะผู้ขอเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.๒๔๒๗
(ร.ศ.๑๐๓) นั้นยังไม่พร้อมเนื่องจากเมืองไทยขณะนั้นยังขัดสนผู้มีความรู้และยังไม่พร้อมที่จะปกครอง
ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ทรงเห็นว่า เมืองไทยต่างจากยุโรปที่พระเจ้าแผ่นดินไทย โดยเฉพาะทรงมีความ
ยุติธรรมและได้ทรงริเริ่มการเปลี่ยนแปลง แต่พระเจ้าแผ่นดินยุโรปประพฤติการต่างๆ รุนแรงตามอัธยาศัย
อีกประการหนึ่งทรงเห็นว่าระบอบประชาธิปไตยนั้นเหมาะกับอุปนิสัยชาวยุโรปแต่ไม่เหมาะกับคนไทย คน
ไทยไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงและสยามยังไม่อยู่ในฐานะที่จะน าระบอบรัฐสภา พรรคการเมืองมาใช้อย่างที่
เป็นในยุโรป แต่อย่างไรก็ตามในรัชสมัยของพระองค์ก็เริ่มเห็นสัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงทางความคิด
แล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มขุนนางข้าราชการซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพท้าทายการเมืองมากที่สุด (ชันอนันต์
สมุทรวณิช, ม.ป.ป. : ๔๘)
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เกิดเหตุการณ์ส าคัญขึ้น คือมีคณะนายทหาร
และพลเรือนกลุ่มหนึ่งตั้งขบวนการขึ้นใน ร.ศ.๑๓๐ (พ.ศ.๒๔๕๔) มีการวางแผนจะเปลี่ยนแปลงการ
ปกครองโดยลดพระอ านาจของกษัตริย์ให้ทรงอยู่ใต้กฎหมายเหมือนกษัตริย์อังกฤษและจักรพรรดิญี่ปุ่น หรือ
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือเป็นความพยายามเปลี่ยนการปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบ
ประชาธิปไตย แต่ไม่ทันจะได้ลงมือก็ถูกจับกุมเสียก่อนอย่างไรก็ตามหลังกบฏ ร.ศ.๑๓๐ รัชกาลที่ ๖ ทรง
พยายามชี้ให้เห็นว่าระบอบราชาธิปไตยเหมาะสมที่สุดส าหรับเมืองไทย ทรงมีบทพระราชนิพนธ์ไว้หลาย
รูปแบบที่ย ้าให้เห็นความยุ่งยากของระบอบประชาธิปไตยและสาธารณรัฐ เช่น เรื่องฉวยอ านาจ ความกระจัด
กระจายแห่งเมืองจีน และเรื่องการจลาจลในรัสเซียโดยทรงปฏิเสธแนวคิดแบบนี้ แต่เน้นให้เห็นถึง
ความส าคัญของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทรงปลูกความรู้สึกชาตินิยมต่อต้านชาวจีน และทรงพยายามที่
จะยกสถาบันกษัตริย์ให้สูงขึ้น ส าหรับระบอบประชาธิปไตยนั้นพระองค์ทรงไม่เห็นด้วยกับหลักการ
ปกครองแบบนี้ กล่าวคือพระองค์ไม่มีความเชื่อมั่นในประชาธิปไตยในฐานะที่เป็นระบอบการปกครอง แต่
ทรงเชื่อประชาธิปไตยในฐานะที่เป็นอุดมคติหรือทฤษฎีหนึ่ง ข้อคัดค้านที่พระองค์ทรงมีต่อประชาธิปไตยก็
คือประชาชนยังไม่มีความรู้พอจะปกครองตนเองได้ ไม่เชื่อมั่นระบบการเลือกตั้งไม่เชื่อมั่นในการที่บุคคลจะ
เป็นนักการเมืองมืออาชีพ พรรคการเมืองที่จะเป็นรัฐบาลมักเล่นพรรคเล่นพวกกัน การมีรัฐสภาไม่สามารถ
แก้ไขปัญหาการฉ้อราษฎร์บังหลวงได้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พยายามทดลองความ
ล้มเหลวของระบบประชาธิปไตยโดยการสร้าง “ดุสิตธานี” ซึ่งเป็นเมืองสมมุติในระบอบประชาธิปไตย ใน
พ.ศ.๒๔๖๑ (ชัยอนันต์ สมุทรวณิช, ม.ป.ป.) หลักการส าคัญของดุสิตธานีจะเป็นการจ าลองการปกครองใน
ระดับเทศบาล เป็นการฝึกฝนประชาธิปไตยและเป็นการทดลองฝึกฝนการบริหารเชิงประชาธิปไตยซึ่งไม่