Page 154 - ภาษาไทย ม.ปลาย
P. 154

154 | ห น า






                                    เรื่องที่ 2 ภาษาไทยกับชองทางการประกอบอาชีพ



                       ภาษาเปนเครื่องมือในการสื่อสารระหวางผูสงสาร (ผูพูด ผูเขียน) กับผูรับสาร (ผูฟง ดู ผูอาน)   ที่
               มนุษยใชในการดําเนินชีวิตประจําวัน โดยเริ่มตั้งแตวัยเด็กที่เริ่มหัดพูด เพื่อสื่อสารกับพอแม พี่นอง บุคคล

               ใกลเคียง ตอมาเมื่ออยูในวัยเรียน เริ่มเขาสูระบบโรงเรียนตั้งแตอนุบาล ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา

               ผูเรียนในวัยนี้เริ่มใชภาษาที่มีระบบระเบียบ มีหลักเกณฑการใชภาษาที่สลับซับซอน ยากงายตามระดับ

               การศึกษา ซึ่งสิ่งที่ผูเรียนไดเรียนรูเกี่ยวกับภาษาไทยนี้ จะเปนการปูพื้นฐานความรูใหผูเรียน มีความรู ความ
               เขาใจ เกิดความซาบซึ้งและมีความคิดสรางสรรคของงานที่เกิดจากการเรียนภาษาไทย เชน มีผูเรียนที่เรียน

               อยูในระดับมัธยมศึกษา  แตเปนผูใฝรู  รักการอาน  รักการจดบันทึกเรื่องราวตางๆ   เริ่มจดบันทึกจากสิ่งที่

               ใกลตัว  คือ  การจดบันทึกกิจวัตรประจําวัน จดบันทึกเหตุการณที่ไดประสบพบเห็นในแตละวัน  เชน  พบเห็น

               เหตุการณน้ําทวมครั้งยิ่งใหญในกรุงเทพมหานคร พบเห็นชีวิตความเปนอยูของประชาชนเมื่อประสบภัยน้ํา
               ทวม ฯลฯ โดยผูเรียนคนนี้ปฏิบัติเชนนี้เปนประจําทุกๆ วัน เมื่อผูเรียนคนนี้เปนคนที่ชอบเขียน ชอบบันทึก

               เรื่องราวตางๆ และแทนที่ผูเรียนคนนี้จะจดบันทึกเรื่องราวตางๆ และเก็บไวเปนขอมูลสวนตัวเทานั้น แต

               ผูเรียนคนนี้ จะนําเรื่องราวที่บันทึกไวเผยแพรในเว็บไซต เปนการบอกเลาเหตุการณที่ไดประสบพบเห็นมาให
               ผูอื่นไดรับรู บังเอิญมีสํานักพิมพที่ไดอานผลงานเขียนของผูเรียนคนนี้ เกิดความพึงพอใจ และขออนุญาต

               นําไปจัดพิมพเปนรูปเลมและจัดจําหนาย โดยผูเรียนจะไดรับคาตอบแทนในการเขียนดวย

                       อีกกรณีหนึ่ง ผูเรียนคนหนึ่งเปนนักพูด เวลาโรงเรียนมีการจัดกิจกรรมหรือมีการจัดงานใดๆ ก็ตาม
               ผูเรียนคนนี้จะอาสาคอยชวยเหลือโรงเรียนโดยเปนผูประกาศบาง ผูดําเนินกิจกรรมตางๆ บาง ซึ่งสิ่งเหลานี้

               จะเปนพื้นฐานใหผูเรียนคนนี้ ไดเรียนรูในระดับที่สูงขึ้น  โดยอาจจะเปนผูทําหนาที่พิธีกร เปนนักจัดรายการ

               วิทยุ เปนนักพากยการตูน ฯลฯ ที่สามารถสรางรายไดใหกับตนเองได
                       ฉะนั้น จากตัวอยางที่กลาวมาตั้งแตตน จะเห็นไดวาการเรียนรูภาษาไทย ก็สามารถนําความรูที่

               ไดรับไปสรางงาน สรางอาชีพเลี้ยงตนเอง เลี้ยงครอบครัวได เชนเดียวกับการเรียนรูในสาระวิชาความรู

               อื่นๆ  กอนที่ผูเรียน กศน. จะตัดสินใจใชความรูภาษาไทยไปประกอบอาชีพ ผูเรียนจะตองวิเคราะห

               ศักยภาพตนเองกอนวาผูเรียนมีความรู ความเขาใจเกี่ยวกับวิชาภาษาไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการฟง การดู
               การพูด การอาน การเขียน หลักการใชภาษา วรรณคดีและวรรณกรรม ลึกซึ้งถูกตองหรือยัง หากวิเคราะห

               แลวคิดวาผูเรียนยังไมแมนยําในเนื้อหาความรูวิชาภาษาไทยก็จะตองกลับไปทบทวนใหเขาใจ จากนั้นจึง

               วิเคราะหตนเองวามีใจรักหรือชอบที่จะเปนนักพูดหรือนักเขียน สวนเนื้อหาเกี่ยวกับการฟง การดู การ
   149   150   151   152   153   154   155   156   157   158   159