Page 89 - ภาษาไทย ม.ปลาย
P. 89
ห น า | 89
สวน 2 เนื้อเรื่องหรือตัวเรื่อง
การเขียนเนื้อเรื่อง ผูเรียนจะตองดูหัวขอเรื่องที่จะ เขียนแลวพิจารณาวาเปนเรื่องลักษณะใด ควร
ตั้งวัตถุประสงคของการเขียนเรียงความอยางไร เพื่อใหขอเท็จจริงแกผูอานเพื่อโนมนาวใจใหผูอานเชื่อ
หรือคลอยตาม เพื่อใหความบันเทิงหรือเพื่อสงเสริมใหผูอานใชความคิดของตนใหกวางขวางขึ้น เมื่อได
จุดประสงคในการเขียน ผูเรียนจะสามารถกําหนดขอบขายของหัวขอเรื่องที่จะเขียนได
สวนที่ 3 บทสรุปหรือความลงทาย
การเขียนบทสรุปหรือความลงทาย ผูรูไดแนะนําใหเขียนหลังจากเขียนโครงเรื่องเสร็จแลวเพราะ
ความลงทายจะทําหนาที่ย้ําความสําคัญของเรื่อง ชวยใหผูอานจดจําสาระสําคัญในเรื่องนี้ได หรือชวยใหผู
อานเขาใจจุดประสงคของผูเขียนอีกดวย วิธีการเขียนความลงทายอาจทําไดดังนี้
1. สรุปความทั้งหมดที่นําเสนอในเรื่อง ใหไดสาระสําคัญอยางชัดเจน
2. นําเรื่องที่เปนสวนสําคัญที่สุดในเนื้อเรื่องมากลาวย้ําตามจุดประสงคของเรื่อง
3. เลือกคํากลาวที่นาเชื่อถือ สุภาษิต คําคมที่สอดคลองกับเรื่องมาเปนความลงทาย
4. ฝากขอคิดและแนวปฏิบัติใหกับผูอาน เพื่อนําไปพิจารณาและปฏิบัติ
5. เสนอแนวคิดหรือขอใครครวญลักษณะปลายเปดใหผูอานนําไปคิดและใครครวญตอ
ลักษณะของเรียงความที่ด ี ควรมีลักษณะที่เปนเอกภาพ สัมพันธภาพ และสารัตถภาพ
เอกภาพ คือ ความเปนอันหนึ่งอันเดียวกันของเรื่องไมเขียนนอกเรื่อง
สัมพันธภาพ คือ มีความสัมพันธกันตลอดเรื่อง หมายถึงขอความแตละขอความหรือแตละย
อหนาจะตองมีความสัมพันธเกี่ยวเนื่องกันโดยตลอด
สารัตถภาพ คือ การเนนสาระสําคัญของยอหนาแตละยอหนาและของเรื่องทั้งหมดโดยใชถอย
คํา ประโยค ขอความที่กระชับ ชัดเจน สื่อความเรื่องทั้งหมดไดเปนอยางดียิ่ง
การเขียนยอความ
การยอความ คือการนําเรื่องราวตางๆ มาเขียนใหมดวยสํานวนภาษาของผูยอเอง เมื่อเขียนแลว
เนื้อความเดิมจะสั้นลง แตยังมีใจความสําคัญครบถวนสมบูรณ การยอความนี้ ไมมีขอบเขตวาควรจะสั้น
หรือยาวเทาใดจึงจะเหมาะ เพราะบางเรื่องมีพลความมากก็ยอลงไปไดมาก แตบางเรื่องมีใจความสําคัญ
มาก ก็อาจยอได 1 ใน 2 หรือ 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 4 ของเรื่องเดิมตามแตผูยอจะเห็นสมควร
ใจความสําคัญ คือ ขอความสําคัญในการพูดหรือการเขียน พลความ คือขอความที่เปน
รายละเอียดนํามาขยายใจความสําคัญใหชัดเจนยิ่งขึ้น ถาตัดออกผูฟงหรือผูอานก็ยังเขาใจเรื่องนั้นได