Page 21 - book1
P. 21
- 18 -
ถึงจะยอมอยู่เองได้ ในสมัยที่เรียนชั้นเด็กเล็กห้องเรียนจะมีแต่ฝาห้องที่กั้นแบ่ง
เป็นห้อง ๆ ซึ่งตัวเองได้อยู่ห้องแรกเวลานั่งเรียน ตาก็จะคอยมองขาแม่ที่นั่งรอ
อยู่ตรงระเบียงห้องตลอดเวลา ครูจะสอนก็สอนไป หูก็ฟังไป ถ้าช่วงใดที่ขาแม่
หายไปจากเก้าอี้ตรงระเบียง ก็จะลุกวิ่งออกไปทันที ไม่สนใจว่าครูจะตีหรือจะ
ลงโทษก็ยอม
มีเรื่องน่าขํามากกว่านั้น คือ วันหนึ่งกําลังฟังครูเล่านิทานเพลิน ๆ อยู่ๆ
ก็นึกขึ้นได้รีบหันไปดูขาแม่ ขาแม่หา ยไปแม่ไม่อยู่ตรงนั้นใจหล่นวูบไปเลยแค่
นั้นเองลุกขึ้นได้นะไม่ต้องออกประตูเลย วิ่งลอดฝากั้นห้องออกไปครูก็จับตัวไว้
ไม่ทัน โชคดีที่สมัยนั้นรถรายังไม่เยอะเหมือนตอนนี้ พอตั้งหลักได้ก็วิ่งโดยไม่มี
การหยุดพักจนถึงบ้านเลย พี่เลี้ยงตกใจมาก จับตัวไว้แล้วถามว่ามาได้ยังไงก็
ตอบว่าตามแม่กลับบ้านสิ พี่เลี้ยงบอกว่าแม่ยังไม่กลับยังอยู่ที่โรงเรียนตอนนั้น
เถียงให้เลยว่าไม่มี แม่กลับบ้านแล้ว ซึ่งขณะนั้นที่โรงเรียนก็วุ่นหาตัวเรา ทั้ง
แม่ ครู ภารโรง จนพี่เลี้ยงอุ้มกลับมาส่งให้เรื่องราวถึงสงบลง มาทราบทีหลัง
ว่าแม่ไปห้องนํ้าแป๊บเดียวเองแต่เราทําวีรกรรมไว้ยุ่งกันหมด ทั้งนี้ต้องขอชื่นชม
และคารวะคุณครูด้วยความเคารพยิ่ง ที่มีจิตใจที่ดีงาม มีความอดทนต่อลูก
ศิษย์คนนี้มากมาย เพราะถ้าครูไม่อดทนกับเด็กเจ้านํ้าตาคนนี้แล้ว ลูกศิษย์
คนนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้มาเขียนหนังสือเล่มนี้เลย