Page 4 - book1
P. 4

- 1  -












                    แม่ ไม่เคยสอนเราให้ร้องไห้         แต่แล้วใครเล่าหนาที่มาสอน
              จะเรียบเรียงเขียนไว้เป็นบทกลอน      เป็นอุทาหรณ์สอนให้ได้คิดกัน

                  ตอนแรกเกิดก็เริ่มเปิดปากร้อง   สืบเนื่องต้องตื่นมาจากความฝัน
           กระเสือก กระสนออกมาจากในครรภ์         จากภพนั้นมาภพนี้ที่แห่งใด
                     แรกลืมตาเห็นหน้าใครไม่รู้        ที่อุ้มชูกอดรัดไว้ไม่ผลักไส

                คอยส่งเสียงเรียกลูกรักทุกครั้งไป        จนเติบใหญ่ถึงได้รู้ผู้มีคุณ
                     ใครคนนั้นของเราเขาคือแม่   ผู้แน่วแน่รักลูกไม่เสื่อมสูญ

                  อีกทั้งพ่อที่คอยช่วยคอยเกื้อกูล   นับเป็นบุญของลูกที่เกิดมา
                  เราจะร้องทุกครั้งที่ร้อนหนาว    และเมื่อคราวที่เจ็บป่ วยให้โหยหา
             หรือปวดทุกข์หนักเบาบ้างบางเวลา    แม้ยามหิวขึ้นมาก็ร้องกวน

                      แต่พอจําความได้ไม่สับสน        แม่ทุกคนจะสอนให้แย้มสรวล
                     สวัสดีส่งจูบอย่างนุ่มนวล         แล้วก็ชวนให้ยิ้มหวานเบิกบานใจ

                        ต่อมาเมื่อรู้จักตัวเองแล้ว        ก็ไม่แคล้วจะโยเยและเฉไฉ
                     คอยติติงว่าสูงตํ่าดําขาวไป  แล้วร้องไห้ไม่พอใจในตนเอง
                     ต่อมามีพี่น้องร่วมท้องเกิด  ยามรักใคร่ก็ชูเชิดไม่โฉงเฉง

                  แต่ยามใดที่รักหดหมดยําเกรง  ก็บรรเลงด้วยนํ้าตาไม่อาลัย
                     ต่อมามีเพื่อนเราทั้งเก่าใหม่  คอยถามไถ่ว่าทุกข์สุขหรือไฉน

                       แต่พอมีปัญหาเกิดไม่เข้าใจ  เพื่อนก็ทําต้องร้องไห้ได้ประจาน
                      ต่อมามีคุณครูผู้สอนสั่ง  ให้จริงจังเรียนรู้สู้ประสาน
                   แต่เมื่อใดที่ทําผิดจากหลักการ        ความเบิกบานก็หายหดซดนํ้าตา

                 เมื่อเรียนจบมีเจ้านายมาแทนที่  ถ้าทําดีก็ชื่นชมไม่อิจฉา
                          ได้เจ้านายไม่ดีขี้นินทา        คอยติติงกล่าวหานํ้าตานอง
   1   2   3   4   5   6   7   8   9