Page 43 - HistoryofNakornratchasima
P. 43

ที่มาของนามเมือง “นครราชสีมา” และ “โคราช”

             กฎมณเฑียรบาล ที่เชื่อว่าตราขึ้นในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา
        กล่าวถึงหัวเมืองส�าคัญระดับ “เมืองพญามหานคร” จ�านวน ๘ เมืองที่ถือน�้าพระพัทธ (พิพัฒน์สัจจา)
        ขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา หนึ่งในจ�านวนนั้นคือ “เมืองนครราชสีมา” ตรงกับกฎหมายอีกฉบับคือ
        พระไอยการนาทหารหัวเมือง ซึ่ึ่งกล่าวถึงต�าแหน่งเจ้าเมืองว่า “ออกญาก�าแหงสงครามรามภักดี
        พีริยะภาหะ เมืองนครราชศรีมา เมืองโท นา ๑๐,๐๐๐” (กฏหมายตราสามดวง เล่ม ๑, ๒๕๓๗ :
        ๗๐, ๓๒๐) กฎหมายชุดนี้น่าจะเป็นเอกสารรุ่นแรกสุดที่กล่าวถึงนามเมืองนครราชสีมาอย่าง
        เป็นทางการว่านาม “นครราชสีมา” มีข้อความกล่าวถึงเมืองหนึ่งที่มีการสถาปนาขึ้นในวันเสาร์
        เดือน ๕ ขึ้น ๖ ค�่า ชวดนักษัตรศก ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๘ มีนาคม จ.ศ. ๘๓๐ หรือ พ.ศ. ๒๐๑๑
        เป็นวันสถาปนาเมืองนครราชสีมา และปรากฏนามเมืองนครราชสีมาเป็นครั้งแรก ดังนั้นในปี
        พ.ศ. ๒๕๖๓ นครราชสีมาจึงมีอายุเมือง ๕๕๒ ปี
             ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับต่าง ๆ มีการสะกดชื่อเมืองนี้แตกต่างกันไป เช่น
        “เมืองณครราชศรีมา, เมืองนครราชศรีมา, เมืองณะครราชศรีมา, เมืองนครราชษรีมา” เป็นต้น
        (ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๒, ๒๕๔๒ : ๒๒๖, ๒๔๖, ๒๔๗) ยังคงค�าอ่านที่
        ออกเสียงเหมือนกัน  ทั้งนี้เนื่องจากเอกสารทางประวัติศาสตร์ในอดีต  มักจะยังไม่มีระบบการ
        สะกดค�าเป็นมาตรฐาน จึงนิยมสะกดให้ตรงกับเสียงอ่านเป็นหลักโดยอาจใช้อักษรต่างกันได้ เช่น
        เดียวกับจารึกข้อความที่คอสองพระระเบียงวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ซึ่ึ่งมีจารึกชื่อหัวเมือง
        ส�าคัญที่ขึ้นกับกรุงเทพมหานครในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็ปรากฏนามเมือง “นครราชเสมา”
        (ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน, ๒๕๕๔ : ๒๗๗) ค�าว่า “สีมา” และ “เสมา” มีความหมายว่า
        “เขต, แดน” ดังนั้นชื่อเมืองนครราชสีมา หรือนครราชเสมา จึงหมายถึงเมืองที่เป็นขอบเขตชายแดน
        หรือ เป็นชายแดนของราชอาณาจักร ตรงกับข้อมูลจากกฎมณเฑียรบาลที่กล่าวถึงเมืองพระยา-
        มหานครทั้ง ๘ เมือง ซึ่ึ่งต้องถือน�้าพระพัทธ โดยที่หัวเมืองดังกล่าวล้วนเป็นเมืองที่อยู่ชายขอบ
        เขตอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา
             สมเด็จฯ กรมพระยาด�ารงราชานุภาพ (๒๕๐๑ : ๑๙๘-๒๐๐) ทรงมีพระวินิจฉัยเกี่ยวกับ
        ชื่อเมืองนครราชสีมาว่า เดิมเมืองนครราชสีมามีเมืองเก่า คือ “เมืองเสมา” อยู่ทางฝั่งซึ่้ายของ
        ล�าตะคอง ต่อมาได้ย้ายมาสร้างเมืองใหม่ทางฝั่งขวาของล�าตะคอง คือ “เมืองโคราฆปุระ”
        เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงสร้างเมืองใหม่อีกแห่งบริเวณที่มีก�าแพงเมืองล้อมรอบ
        จึงมีการดัดแปลงเอาชื่อเมืองเดิมทั้ง ๒ เมือง คือ เสมา และโคราฆปุระ ผนวกเข้าด้วยกันเป็นชื่อ
        “เมืองนครราชสีมา” อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฏหลักฐานที่มาชื่อโคราฆปุระจากการด�าเนินการ
        ทางโบราณคดีพบเพียงแต่ปราสาทในอารายธรรมขอมบางแห่งที่ตั้งอยู่พื้นที่ใกล้เคียงเมืองเสมา
        ซึ่ึ่งเป็นเมืองเก่าสมัยทวารวดีเท่านั้น (กรมศิลปากร, ๒๕๕๘ : ๘๑)
             ส่วนชื่อเมือง “โคราช” ซึ่ึ่งเป็นชื่อที่นิยมเรียกกันทั่วไปมาแต่เดิมนั้น เมืองที่ขึ้นชื่อน�าหน้าว่า
        “นคร” มีหลายเมือง และมักนิยมเรียกตัดให้สั้นลงว่า “เมืองคอน” โดยที่เมืองนครราชสีมานี้ คงจะ
        ถูกเรียกอย่างสั้น ๆ ว่า “คอนราช” เพื่อให้ต่างจากเมืองนครพนม

                                      รู้เรื่องเมืองโคราช ท่องประวัติศาสตร์และอารยธรรมขอม 41
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48