Page 7 - GEH1101-เอกสารประกอบการเรียนการสอน-unit1
P. 7

สุนทรียภาพกับชีวิต







                                      1.1.2.1 สุนทรียศาสตร์
                                               ค าว่า “สุนทรียศาสตร์” (aesthetics) เป็ นค าที่มีอยู่ในภาษากรีก

                       โบราณ แต่ค านี้ถูกน ามาท าให้มีความหมายในโลกศิลปะตะวันตกเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 18 โดยเมื่อ

                       ค.ศ. 1734 อเลกซานแดร์ โกตต์ลีบ เบาม์การ์เตน (Alexander  Gottlieb  Baumgarten  1714  –
                       1762) นักปรัชญาชาวเยอรมันเป็นผู้ให้ความหมายใหม่ และเขียนเป็นภาษาเยอรมันว่า Æsthetik

                                               [6]
                       ซึ่งปัจจุบันเขียนว่า Ästhetik    โดยค านี้มีนัยยะความหมายว่าด้วยความงาม (beauty)  และการ
                       ตอบสนองรับรู้ด้วยสัมผัส  (taste) อนึ่ง ค าว่า taste ในภาษาอังกฤษที่หมายถึงการตอบสนองรับรู้

                       ด้วยสัมผัสนั้น ภาษาไทยแปลว่า “รสนิยม” ซึ่งค าแปลดังกล่าวให้ความหมายไม่ครอบคลุมนัยยะ

                       ของค าด้านปรัชญาศิลปะอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ กล่าวคือ พจนานุกรมฉบับมติชน พ.ศ. 2547
                       พิมพ์ครั้งแรก อธิบายความหมายของค า “รสนิยม” ว่า “รสนิยม [รด-สะ-นิ-ยม, รด-นิ-ยม] น. ความ

                                              [7]
                       พอใจในลักษณะอย่างนั้น”    และ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 พิมพ์ครั้งที่ 2
                       อธิบายความหมายของค า “รสนิยม” ว่า “รสนิยม [รดสะนิยม, รดนิยม] น. ความนิยมชมชอบ,

                                                              [8]
                       ความพอใจ, เช่น เขามีรสนิยมในการแต่งตัวดี”
                                               ปัจจุบัน ค าว่า “สุนทรียศาสตร์”  ต่อไปจะเขียนเฉพาะค าภาษาไทย
                       ประกอบด้วยความหมายหลัก 2 ประการ คือ ความหมายด้านปรัชญาความงาม (philosophy  of

                       beauty)  และ ความหมายด้านปรัชญาการตอบสนองรับรู้ด้วยสัมผัส (philosophy  of  taste)
                                                                                                        [9]
                       เหตุนั้น เนื้อหาของสุนทรียศาสตร์จึงมีความหมายกว้างขวางลุ่มลึก จนสามารถครอบคลุมปรัชญา

                       ศิลปะไว้ในบริบทของความหมายหลักนั้นได้ทั้งหมด เพราะสาระของสุนทรียศาสตร์มุ่งให้
                       ความส าคัญด้านคุณค่าและธรรมชาติของศิลปะ อนึ่ง พึงพิจารณาประเด็นที่สังคมทั่วไปมักเข้าใจ

                       คลาดเคลื่อนจากความจริงอย่างมาก ว่าศิลปะหมายถึงจิตรกรรมและประติมากรรมเพียงสอง

                       ศาสตร์เท่านั้น

                                               โดยความหมายดังกล่าวข้างต้น สุนทรียศาสตร์จึงเกี่ยวข้องด้วยเรื่อง
                       การตอบสนองต่อวัตถุธรรม (natural objects) ซึ่งแสดงออกผ่านทางภาษา และภาษามิได้หมายถึง

                       เฉพาะภาษาที่เป็นตัวอักษร เหตุนั้นวัตถุธรรมที่แสดงออกจึงมีคุณสมบัติของความงาม (beauty)

                       หรือ ความอัปลักษณ์ (ugliness)  อยู่ในตัวเอง อย่างไรก็ตาม ความงามกับความอัปลักษณ์กลับ

                       เป็นเหตุให้เกิดประเด็นตามมาได้อีก เพราะต้องตอบค าถามว่าอย่างไรจึงนับเป็นความงาม อย่างไร

                       จึงไม่นับเป็นความงามซึ่งคือความอัปลักษณ์ และ ความอัปลักษณ์โดยตัวมันเองเป็นศิลปะหรือไม่
                       เป็นต้น





                                                                                                         7
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12