Page 11 - GEH1101-เอกสารประกอบการเรียนการสอน-unit1
P. 11
สุนทรียภาพกับชีวิต
1.1.2.2 สุนทรียภาพ
สุนทรียศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องด้วยเรื่องการตอบสนองต่อวัตถุธรรม
โดยการตอบสนองดังกล่าวหมายความถึงการรู้สึกสัมผัสรับรู้ของแต่ละบุคคลต่อความงามใน
ธรรมชาติหรืองานศิลปะอย่างอยู่นอกเหนือเจตจ านงแห่งตน ทั้งนี้ การตอบสนองนั้นเรียกอีกนัย
หนึ่งว่า “สุนทรียภาพ” หรือ “ประสบการณ์สุนทรียภาพ” (aesthetic experience) ซึ่งสามารถ
อธิบายให้กระจ่างเพิ่มขึ้นได้ว่าหมายถึง การรับรู้สภาวะจ าเพาะต่างๆ ของความคิดจิตใจ
[17]
ตัวอย่างเช่น ทัศนคติ อารมณ์ และ การตอบสนอง อย่างอยู่นอกเหนือเจตจ านงแห่งตน โดย
สภาวะจ าเพาะดังกล่าวในสุนทรียภาพ มีความเกี่ยวข้องกับค าบ่งชี้ด้านความคิดจิตใจส าคัญ 2 ค า
ได้แก่ สภาวะสูงส่งล ้าเลิศยิ่งใหญ่อยู่เหนือการชั่งตวงวัดและลอกเลียนแบบ (the sublime) ซึ่งเกิด
ในความรู้สึกด้านบวกหรือด้านลบ (negative pleasure or feelings) ของปัจเจกบุคคล ที่มีต่อ
ธรรมชาติหรือวัตถุธรรม และที่เกิดในสัญญาณ (sign)ที่บ่งบอกถึงสภาพเปราะบางไม่มั่นคง รวมถึง
สภาพโดดเดี่ยวของการอยู่บนโลก และ สภาวะงาม (the beautiful) ซึ่งเกิดจากการรับรู้ต่ออารมณ์
ความรู้สึกเชิงสังคม (social feelings) เช่น อารมณ์พาฝัน และที่เกิดในความหวังของปัจเจกบุคคล
[18]
ซึ่งจะได้รับความรู้สึกปลอดโปร่งเบิกบานจากความรักหรือความปรารถนาแห่งตน อย่างไรก็ตาม
สภาวะงามดังกล่าวนั้นมุ่งเน้นจ าเพาะที่การสัมผัสรับรู้ผ่านการมองเห็นและการได้ยิน ซึ่งก่อให้เกิด
ความพึงพอใจอย่างเป็นสุขท่วมท้น (great pleasure)
ทั้งนี้ ค าสองค าดังกล่าวปรากฏครั้งแรกในข้อเขียนที่ชื่อว่า A
Philosophical Enquiry into the Origin of Our Ideas of the Sublime and Beautiful หรือ On
the Sublime and Beautiful ของเอ็ดมันด์ เบิร์ค (Edmund Burke 1729-1797) นักปรัชญาและ
นักการเมืองชาวไอริช ตีพิมพ์เมื่อค.ศ. 1757 เมื่อกล่าวโดยสรุป ค าว่า the beautiful ที่เอ็ดมันด์ เบิร์
คอธิบายไว้ในข้อเขียนของเขานั้น มีความหมายว่าสิ่งที่มีแบบอันงามและก่อให้เกิดความพึงพอใจ
ทางสุนทรียภาพ ขณะที่ค าว่า the sublime มีความหมายว่า สิ่งที่มีพลังอันสามารถกระตุ้นเร้าและ
[19]
ท าลายผู้คนได้ อย่างไรก็ตาม เอ็ดมันด์ เบิร์คน าแนวความคิดเกี่ยวกับค าสองค าดังกล่าว มาจาก
ค าอธิบายเรื่อง โครงสร้างปัจจัย (causal structure) ของแอริสทอเทิล (Aristotle 384-322 BC) นัก
ปรัชญากรีก
โดยความหมายของค าว่า “โครงสร้างปัจจัย” ดังกล่าว ประกอบด้วย
วัสดุปัจจัย (material cause) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงวัตถุ เช่น โต๊ะท ามาจากไม้ รูปปั้นท ามา
จากโลหะหรือหิน รูปปัจจัย (form cause) หมายถึงการเปลี่ยนแปลงกายภาพเชิงสรรสร้าง เช่น
อัตราสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงของตัวเลข ดังกรณี 2:1 สัมฤทธิปัจจัย (efficient or moving cause)
11