Page 13 - GEH1101-เอกสารประกอบการเรียนการสอน-unit1
P. 13

สุนทรียภาพกับชีวิต







                       Agricultural Revolution) เหตุนั้น การมีชีวิตอยู่ภายใต้สภาวะตามธรรมชาติจึงกลายเป็นความป่า
                       เถื่อนโหดร้ายและปราศจากความงาม อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงค าว่า “ศิลปะ” และ “ความงาม”

                       สิ่งที่เป็นค าถามต่อค าสองค านี้ได้เกิดขึ้นว่า ศิลปะคืออะไร ความงามคืออะไร แม้ว่าค านิยามหรือ

                       ค าตอบต่อค าถามดังกล่าวสามารถพบเห็นทั่วไป ในต ารับต าราด้านศิลปะที่มีจ านวนมากมายและ
                       แตกต่างกัน โดยทั้งหมดเป็นผลลัพธ์จากการอภิปรายและการแสดงความคิดเห็นของนักคิดและนัก

                       ปรัชญาศิลปะ แต่ปัจจุบันยังไม่ปรากฏว่าค านิยามเหล่านั้น มีความคิดเห็นด้านคุณสมบัติหรือ

                       ลักษณะร่วมเดียวกันอย่างจ าเพาะชัดเจน (something in common) เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับ

                       โดยฉันทานุมัติของโลกศิลปะ

                                               นักคิดและนักปรัชญาศิลปะได้สถาปนาค านิยามจ านวนมากมายแก่
                       ค าว่าศิลปะและความงาม แม้ว่าน่าเสียดายที่ค านิยามส่วนใหญ่มุ่งน าเสนอความหมายไปที่ศิลปะ

                       ด้านจิตรกรรมและประติมากรรม แต่อย่างไรก็ตามอาจแบ่งกลุ่มและยกตัวอย่างค านิยามของบุคคล

                       ที่มีอิทธิพลทางความคิดในโลกศิลปะและสุนทรียศาสตร์อย่างโดดเด่น ดังนี้ กลุ่มค านิยามแผนโบราณ

                       (Traditional definitions) กลุ่มค านิยามร่วมสมัย (Contemporary definitions) หรือ กลุ่มค านิยาม

                       ตามแบบแผน (Conventionalist  definitions)  ซึ่งแบ่งตามแนวคิดเป็น 2 กลุ่มย่อย ได้แก่ กลุ่มค า
                       นิยามตามแบบแผนเชิงสถาบัน (Institutionalist conventionalism or Institutionalism) และ กลุ่มค า

                       นิยามตามแบบแผนเชิงประวัติศาสตร์ (Historical  conventionalism)  กลุ่มค านิยามเชิงหน้าที่

                                            [22]
                       (Functional definitions)
                                               กลุ่มค านิยามแผนโบราณได้สถาปนาค านิยามแก่ค าว่าศิลปะ ด้วยการ
                       ระบุคุณลักษณะเดี่ยวเพียงประการเดียว ได้แก่ คุณสมบัติเลียนแบบ (representational

                       properties)  คุณสมบัติที่ปรากฏเด่นชัด (expressive  properties)  และ คุณสมบัติตามรูปแบบ

                       (formal  properties)  ดังกรณีตัวอย่างนักปรัชญากรีกคือ เพลโท (Plato  427-347  BC)  ที่ให้ค า

                       นิยามแก่ศิลปะว่า ศิลปะคือการเลียนแบบธรรมชาติ และ อิมมานูเอิล คานท์ (Immanuel  Kant
                       1724-1804)  นักปรัชญาและนักอภิปรัชญาชาวเยอรมันที่ให้ค านิยามแก่ศิลปะว่า ศิลปะคือการ

                       เลียนแบบอย่างมีเจตจ านง แม้ว่าปราศจากเป้ าหมายสุดท้าย แต่ส่งเสริมความงามแห่งพลัง

                                          [23]
                       ความคิดเพื่อมิตรภาพ   เมื่อพิจารณาค านิยามของคานท์ จะพบว่ามีองค์ประกอบเข้าเกณฑ์ตาม
                       ลักษณะเดี่ยวดังกล่าวข้างต้นครบทุกกรณี กล่าวคือ คุณสมบัติเลียนแบบ (representational

                       element) โดยระบุค าว่า “เลียนแบบ” คุณสมบัติตามรูปแบบ (formalist element) โดยระบุค าว่า
                       “อย่างมีเจตจ านง” อันเป็นลักษณะของศิลปะตามแนวคิดของศิลปะตามรูปแบบหรือรูปทรง ที่เชื่อ

                       ว่าศิลปะจะงามหรืออัปลักษณ์ขึ้นอยู่กับความเข้าใจผ่านการมองเห็นหรือการได้ยินเสียง และ



                                                                                                        13
   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17   18