Page 41 - คู่มือการเขียนวิจัยและการอ้างอิง
P. 41

34


                        19. แผนที่  ไดแก  แผนที่ที่เปนแผนเดี่ยว ๆ  ไมไดรวมเปนเลม ใชรูปแบบดังนี้



                      ชื่อเรื่อง.    (แผนที่).    ปที่ผลิต.    ดังตัวอยาง



                      1 แผนที่กรุงเทพมหานคร.    (แผนที่).    2525.
                      2 The  Middle  East.    (Map).    n.d.



                        20.  การอางวัสดุสารสนเทศซํ้า
                             ถาในบทหนึ่ง ๆ จําเปนตองอางวัสดุสารสนเทศซํ้ามากกวา  1  ครั้งใหใชคํายอในการอาง ซึ่งมี

              3  แบบดังนี้
                             20.1  ภาษาไทยใช  แหลงเดิม  ภาษาอังกฤษใชคําวา  Ibid.  ใชในกรณีไมมีเชิงอรรถที่กลาวถึง
              วัสดุสารสนเทศอื่นมาคั่น

                             20.2  ภาษาไทยใช  เลมเดิม  ภาษาอังกฤษใชคําวา  op. cit.  ใชในกรณีที่อางอิงวัสดุสารสนเทศ
              เลมเดิมแตเลขหนาที่อางตางกัน  และมีเชิงอรรถที่กลาวถึงวัสดุสารสนเทศอื่นมาคั่น

                             20.3  ภาษาไทยใช  หนาเดิม  ภาษาอังกฤษใชคําวา  loc. cit.  ใชในกรณีที่อางอิงวัสดุสารสนเทศ
              เลมเดิม  หนาเดิม  แตมีเชิงอรรถที่กลาวถึงวัสดุสารสนเทศอื่นมาคั่น  ดังตัวอยาง



                      1 กีรติ  บุญเจือ.    ตรรกวิทยาทั่วไป.    2528.    หนา  21.
                      2 หลวงวิจิตรวาทการ.    มันสมอง.    2529.    หนา  78-80.

                       3 แหลงเดิม.    หนา  80.
                      4 กีรติ  บุญเจือ.    เลมเดิม.    หนา  25.

                       5 แหลงเดิม.
                      6 หลวงวิจิตรวาทการ.    หนาเดิม.
                       7  John  Rex.    Key  Problems  of  Sociological  Theory.    1980.    p.  1.

                      8 Ibid.
                      9 ฉวีลักษณ  บุณยะกาญจน.    จิตวิทยาการอาน.    2525.    หนา  15.

                              10  John  Rex.    op. cit.    p.  85-86.
                      11 Ibid.    p.  99.
                      12 ทรงพันธ  วรรณมาศ.    การอานตีความ.    2524.    หนา  30.

                      13  John  Rex.    loc. cit.


                        21.  การอางอิงแหลงรอง

                             ในการศึกษาคนควาควรอางเอกสารตนเรื่อง  (Primary  Sources) ไมควรอางเลมที่ไมใช
              ตนเรื่อง แตถาจําเปนเพราะติดตามหาอานไมไดจริง ๆ  จึงอางแหลงรอง  คือเลมที่ไดอานแตไมใชตนความคิด  การ

              อางลักษณะนี้ใหอางถึงเลมที่ไดอานกอนแลวตามดวยเลมที่ไมไดอาน  (เลมตนเรื่อง)  รายละเอียดของเลมตนเรื่อง
              จะอยูในวงเล็บโดยมีขอความ  “อางอิงมาจาก”  หรือ  “citing”  อยูกอนชื่อผูแตง  ดังตัวอยาง



               คูมือการเขียนบทนิพนธ
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46