Page 62 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 62
๕๕
๑) การกลาวหาวามีผูกระทําความผิดนั้น ซึ่งทําใหเกิดความเสียหายแกผูเสียหาย ไมวา
จะรูตัวผูกระทําความผิดหรือไมก็ตาม
๒) การกลาวหา โดยมีเจตนาใหผูกระทําความผิดนั้นไดรับโทษ
ó.ó.ñ μŒÍ§¡Å‹ÒÇËÒÇ‹ÒÁÕ¼ÙŒ¡ÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´ ในการกลาวหาวามีผูกระทําความผิดนั้น
ซึ่งทําใหเกิดความเสียหายนั้น ผูเสียหายเพียงกลาวถึงพฤติการณที่ผูกระทําผิดกระทําตอตน
และไดรับความเสียหายจากการกระทํานั้นอยางไร โดยผูเสียหายมีความประสงคที่จะใหเจาพนักงานตํารวจ
เอาตัวผูกระทําผิดมารับโทษเพียงแคนั้น ก็เพียงพอแลว ผูเสียหายäÁ‹จําμŒÍ§Ãкض֧°Ò¹¤ÇÒÁ¼Ô´·Õè
¼ÙŒ¡ÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´¹Ñ鹡ÃÐทํา
μÑÇÍ‹ҧคํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաÒ
คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·Õè ÷ðó/òôøó การรองทุกขนั้น ผูเสียหายไมจําเปนตองอางระบุฐาน
ความผิดดวย รูปคดีจะเปนความผิดฐานใดนั้น เปนปญหาขอกฎหมาย ซึ่งแลวแตเจาพนักงานจะวินิจฉัย
และดําเนินการฟองรอง
คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·Õè öøùô/òõôù มีการละเมิดลิขสิทธิ์ของผูเสียหาย จึงขอแจงความ
รองทุกขเพื่อดําเนินการตามกฎหมายตอไป แมไมปรากฏชื่อหรือรูปพรรณของผูกระทําความผิด
แตเมื่อปรากฏลักษณะแหงความผิดพฤติการณตางๆ ที่ความผิดนั้นไดกระทําลงและความเสียหายที่ไดรับ
ก็ถือวาเปนคํารองทุกขแลว
ó.ó.ò μŒÍ§ÁÕà¨μ¹ÒãËŒ¼ÙŒ¡ÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´ä´ŒÃѺâ·É ในการกลาวหานั้นตองมีเจตนาให
ผูกระทําความผิดนั้นไดรับโทษดวย จึงจะเปนคํารองทุกขตามความหมายในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา ดังนั้น หากในคํากลาวหาของผูเสียหายไมมีสาระสําคัญที่จะแสดงใหเห็นถึงเจตนาที่
ผูเสียหายตองการใหผูกระทําผิดไดรับโทษแลว คํากลาวหานั้นก็ไมใชคํารองทุกข
μÑÇÍ‹ҧ¢Í§คํา¡Å‹ÒÇËÒ·Õè “äÁ‹ÁÕà¨μ¹ÒãËŒ¼ÙŒ¡ÃÐทํา¼Ô´ä´ŒÃѺâ·É”
(๑) กรณีแจงวา ÁÕ¡ÒáÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´ÍÒÞÒà¡Ô´¢Öé¹ áμ‹¢Í´Ù仡‹Í¹
μÑÇÍ‹ҧคํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաÒ
คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒ®Õ¡Ò·Õè òòðö/òõòò ผูเสียหายแจงตอผูใหญบานวาถูกจําเลยขมขืนกระทํา
ชําเรา ฯลฯ áμ‹¢Í´Ù仡‹Í¹ ¶ŒÒจําàÅÂŒ͹ÁÒÍÕ¡¡ç¨ÐàÍÒàÃ×èͧ ถาไมกลับมาอีกก็แลวไป แสดงวาเปน
แตแจงใหรับทราบเปนหลักฐาน ขณะนั้นยังไมมีเจตนาใหจําเลยรับโทษ ยอมไมเปนคํารองทุกขตาม
ป.วิ.อ. มาตรา ๒ (๗) พนักงานสอบสวนยอมไมมีอํานาจสอบสวนและพนักงานอัยการจะฟองจําเลย
ในความผิดฐานขมขืนกระทําชําเราซึ่งเปนความผิดตอสวนตัวไมได