Page 70 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 70

๖๓




                             ๓)  ในการถามปากคําผูเสียหายหรือพยานซึ่งเปนเด็ก หากนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห
                 เห็นวา การ¶ÒÁ»Ò¡คําà´ç¡¤¹ã´ËÃ×Íคํา¶ÒÁã´ ÍÒ¨ÁռšÃзº¡ÃÐà·×͹μ‹Í¨Ôμã¨à´ç¡ÍÂ‹Ò§ÃØ¹áç

                 ãËŒ¾¹Ñ¡§Ò¹ÊͺÊǹ¶ÒÁ¼‹Ò¹¹Ñ¡¨ÔμÇÔ·ÂÒËÃ×͹ѡÊѧ¤Áʧà¤ÃÒÐˏ໚¹¡ÒÃ੾ÒÐ μÒÁ»ÃÐà´ç¹คํา¶ÒÁ
                 ¢Í§¾¹Ñ¡§Ò¹ÊͺÊǹ โดยมิใหเด็กไดยินคําถามของพนักงานสอบสวน และหามมิใหถามเด็กซํ้าซอน

                 หลายครั้ง โดยไมมีเหตุอันสมควร
                             ๔)  เปนหนาที่ของพนักงานสอบสวนที่จะตองแจงใหนักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห

                 บุคคลที่เด็กรองขอและพนักงานอัยการทราบ และแจงสิทธิดังกลาวขางตนใหผูเสียหายหรือพยานที่เปน
                 เด็กทราบ

                             ๕)  หากผูเสียหายหรือพยานที่เปนเด็ก ไมพอใจ นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห
                 หรือพนักงานอัยการที่เขารวมในการจดบันทึกนั้น ผูเสียหายหรือพยานที่เปนเด็กตั้งรังเกียจได

                 ซึ่งมาตรา ๑๓๓ ทวิ วรรคสาม ไดระบุไว แตมิไดระบุถึงหลักเกณฑหรือสาเหตุในการตั้งรังเกียจ
                 เพียงแตระบุใหเปลี่ยนตัวบุคคลดังกลาว ดังนั้น จึงควรคํานึงถึงความพอใจและสบายใจของเด็กเปนสําคัญ


                  ¢ŒÍÊѧà¡μ
                          (๑)  โดยทั่วไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไดกําหนดใหผูแทนโดยชอบธรรม มีอํานาจจัดการแทน
                  ผูเสียหาย ซึ่งเปนผูเยาวได หากเปนกรณีความผิดที่ไดกระทําตอผูเยาวซึ่งอยูในความดูแล และผูแทนโดยชอบธรรมที่มีอํานาจจัดการ
                  แทนผูเสียหายซึ่งเปนผูเยาวตามมาตรา ๕(๑) เชนวานี้ยอมมีอํานาจรองทุกขแทนผูเสียหายที่เปนผูเยาวไดตามมาตรา ๓(๑) หากเปน
                  กรณีที่ผูแทนโดยชอบธรรมใชอํานาจจัดการแทนตามมาตรา ๕(๑) ประกอบ มาตรา ๓(๑) รองทุกขแทนผูเสียหายที่เปนเด็ก พนักงาน
                  สอบสวนยอมไมอยูในบังคับที่จะตองปฏิบัติตามมาตรา ๑๒๔/๑ กลาวคือพนักงานสอบสวนไมตองนําบทบัญญัติในมาตรา ๑๓๓ ทวิ
                  วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม มาใชบังคับโดยอนุโลมแกการจดบันทึกคํารองทุกขของผูแทนโดยชอบธรรมแตอยางใด
                  ทั้งนี้เพราะวัตถุประสงคหลักของการแกไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๒๔/๑ ก็คือมุงประสงคจะคุมครองเด็กที่เขาสูกระบวนการยุติธรรม
                  ไมวาจะในฐานะเปนผูเสียหาย ผูตองหา หรือพยาน มิใหเด็กไดรับผลกระทบจากกระบวนการยุติธรรม หรือปองกันมิใหมีการ
                  กระทําการใดๆ อันอาจเปนการซํ้าเติมจิตใจเด็ก ดังนั้น มาตรา ๑๒๔/๑ ที่เพิ่มเติมขึ้นใหมนี้ จึงไมอาจนําไปใชบังคับแกกรณี
                  ผูแทนโดยชอบธรรมใชอํานาจจัดการแทนตามมาตรา ๕(๑) ประกอบมาตรา ๓(๑) รองทุกขแทนผูเสียหายที่เปนผูเยาวซึ่งอยู
                  ในความดูแลได หากแตจะมีผลใชบังคับสําหรับกรณีที่ผูเสียหายเปนเด็กอายุไมเกิน ๑๘ ป ซึ่งเปนผูเสียหายโดยตรงรองทุกข
                  ดวยตนเองเทานั้น
                             และมาตรา ๑๒๔/๑ นี้ใชบังคับทั้งที่เปนการรองทุกขตอพนักงานสอบสวนตามมาตรา ๑๒๓ และกรณีที่ผูเสียหาย
                  รองทุกขตอพนักงานฝายปกครองหรือตํารวจ ตามมาตรา ๑๒๔ (ธานิศ เกศวพิทักษ, ๒๕๕๘)
                          (๒) การนับอายุของผูเสียหายที่เปนเด็กอายุไมเกิน ๑๘ ปนั้น จะใชหลักเกณฑอยางไรในเรื่องนี้ นายธานิศ
                  เกศวพิทักษ รองประธานศาลฎีกา ไดใหความเห็นวา “เจตนารมณของมาตรา ๑๒๔/๑ ที่เพิ่มเติมใหมที่มุงประสงคจะคุมครอง
                  ผูเสียหายที่เปนเด็กที่เขาสูกระบวนการยุติธรรม มิใหเด็กไดรับผลกระทบจากกระบวนการยุติธรรมหรือปองกันมิใหมีการ
                  กระทําใดๆ อันอาจเปนการซํ้าเติมจิตใจเด็กแลว ก็นาจะตองนับอายุของผูเสียหายที่เปนเด็กจนถึงวันที่ผูเสียหายที่เปนเด็ก
                  รองทุกข ดังนั้นแมในวันที่มีการกระทําความผิด ผูเสียหายซึ่งเปนเด็กยังมีอายุไมเกิน ๑๘ ป แตในวันที่ผูเสียหายรองทุกข
                  ผูเสียหายมีอายุเกิน ๑๘ ปแลว กรณีไมนาจะตองดวยหลักเกณฑตามมาตรา ๑๒๔/๑” (ธานิศ เกศวพิทักษ, ๒๕๕๘)
   65   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75