Page 15 - บทที่ 1
P. 15

๖๘ | G E L ๒ ๐ ๐ ๑   ภ า ษ า ไ ท ย เ ชิ ง วิ ช า ก า ร

                   ตัวอย่างการเขียนบทน าในรายงานขนาดเล็ก



                          “โฆษณาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนในกรุงมากเท่าๆ กับเครื่องรับโทรทัศน์ และในปัจจุบันเรา
                   สามารถกล่าวได้ว่า โฆษณาเป็นของคู่กับรายการทางโทรทัศน์  ค่าใช้จ่ายส าหรับรายการโทรทัศน์ต่างๆ

                   ล้วนได้มาจากการโฆษณาทั้งสิ้น” (วิไลวรรณ  ขนิษฐานันท์, ๒๕๓๗, หน้า ๑ )

                          จากข้อความข้างต้นได้แสดงว่าโฆษณาเป็นสิ่งส าคัญในการสื่อสารมวลชน  ท าให้ข้อความ

                   โฆษณาเป็นสิ่งที่ต้องพิถีพิถันมากในงานโฆษณาแต่ละชิ้น  เพราะเป็นสิ่งที่ได้ผ่านการคิดค้นขึ้นมาเพื่อจูง
                   ใจให้คนแสดงพฤติกรรมตามที่ผู้สร้างสรรค์โฆษณาต้องการ  ความต้องการพื้นฐานที่ส าคัญที่สุดคือ

                   ความต้องการ   ชักจูงให้คนยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าหรือบริการ

                          รายการวิทยุปัจจุบันก็มีการโฆษณาสินค้าเกือบทุกสถานี โดยเฉพาะสถานีที่เป็นรายการเพลงซึ่ง
                   มีคนฟังค่อนข้างมาก  รูปแบบการสร้างภาษาในโฆษณาจึงต้องมีการพัฒนาและแข่งขันเพื่อให้ผู้ฟัง

                   ประทับใจมากที่สุด  และจากความแตกต่างของรูปแบบรายการวิทยุประเภทเอเอ็มและเอฟเอ็ม ซึ่งมีกลุ่ม

                   ผู้ฟังแตกต่างกันอย่างชัดเจน   ผู้วิเคราะห์เห็นว่าน่าจะมีบางสิ่งบางอย่างในการโฆษณาแตกต่างกันไป
                   อาทิ เรื่องของรูปแบบ  ภาษา  ตลอดจนตัวสินค้าที่น าเสนอ  เป็นเหตุผลให้ผู้วิเคราะห์เกิดความสนใจที่จะ

                   ศึกษาถึงความแตกต่างที่ปรากฏอยู่จริง





                          ๒.  เนื้อหา
                                                                                                         3
                                การเรียบเรียงส่วนเนื้อหาในรายงานประกอบด้วยส่วนที่เป็นเนื้อความ  การอ้างอิงในเนื้อหา
                   การเขียน อัญประภาษ และเชิงอรรถ

                                     ในส่วนเนื้อความ เมื่อผู้จัดท ารายงานได้ผ่านกระบวนการค้นคว้า รวบรวมและบันทึกข้อมูล
                   ได้ตามที่ต้องการแล้ว  ก่อนอื่นต้องตรวจสอบความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของข้อมูลก่อน  โดย

                   พิจารณาถึงแหล่งข้อมูลที่น ามา บุคคลหรือหน่วยงานที่จัดท าข้อมูลนั้น  เช่น ถ้าผู้เขียนเป็นผู้เชี่ยวชาญ

                   เฉพาะในสาขาวิชาย่อมน่าเชื่อถือกว่าบุคคลที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชานั้น  หรือเรื่องเกี่ยวกับ
                   การศึกษา ควรอ้างอิงแหล่งที่มาจากกระทรวงศึกษาธิการมากกว่ากระทรวงวัฒนธรรม เป็นต้น  ปัจจุบัน

                   การน าข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตมาใช้ประกอบในรายงานมีจ านวนมากขึ้น  เนื่องจากการสืบค้นสะดวก ไม่

                   เสียเวลาและค่าใช้จ่ายมากเท่ากับการเข้าใช้บริการห้องสมุดต่างๆ  แต่ข้อควรระวังในการน าข้อมูลจาก
                   อินเทอร์เน็ตมาใช้  คือควรพิจารณาแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้  เช่น เลือกใช้ฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัย

                   หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) หรือเนื้อหาที่แสดงข้อมูลผู้เขียนชัดเจน น่าเชื่อถือ และเราสามารถน ามา

                   อ้างอิงได้  ย่อมดีกว่าการน าข้อมูลของใครก็ได้ที่แสดงไว้ในเว็บไซต์ทั่วๆ ไป มาใช้ประกอบการท า



                   3
                       ศึกษาเพิ่มเติมจากหน่วยการเรียนเรื่อง การสืบค้นข้อมูลและการอ้างอิงเชิงวิชาการ






                                                                                                กลับสู่หน้าสารบัญ
   10   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20