Page 58 - รายงานกิจการประจำปี 2561และการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2561
P. 58
รายงานกิจการประจำาปี 2561 และ
52 การประชุมใหญ่สามัญประจำาปี 2561
คาดการณ์แนวโน้มตลาดตราสารทุน ปี 2562
MFC มีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยเป็นผลจาก
1) ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ค่อยเป็นค่อยไปมากขึ้นกว่าปีก่อน
ซึ่งจะทำาให้ค่าเงินดอลลาร์ไม่แข็งค่าเร็วจนเกินไป
2) เศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวในวงกว้างมากขึ้นนำาโดยอุปสงค์ภายในประเทศ จากดัชนีการบริโภค และ
การลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวดีขึ้น
3) โครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) จะกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
(Foreign Direct Investment: FDI) ให้เติบโตแข็งแกร่ง
4) นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังการเลือกตั้งจะเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และ
5) คาดภาคการท่องเที่ยวผ่านจุดตำ่าสุดไปแล้วในปี 2561
ทางด้านความเสี่ยง ตลาดอาจเผชิญความผันผวนจาก
1) นโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป และญี่ปุ่นมีความตึงตัวมากขึ้น
2) อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2562 จะชะลอตัวลงจากปีก่อนจากผลกระทบของสงครามการค้า
3) การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะเป็นปัจจัยกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่
4) ความกังวลต่อปัญหาอุปทานล้นตลาดของนำ้ามันจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นของฝั่งสหรัฐฯ
5) การส่งออกไทยได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง และปัญหา
สงครามการค้า และ
6) ความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทยภายหลังการเลือกตั้ง
กลยุทธ์การลงทุนในตราสารทุน
MFC มีระบบการบริหารพอร์ตการลงทุนอย่างใกล้ชิด โดยมีการพิจารณาปรับนำ้าหนักการลงทุนทั้งในส่วน Asset
Allocation และ Sector Allocation อย่างสมำ่าเสมอ รวมถึงพิจารณา Market Timing ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ได้
ประเมินไว้ในแต่ละช่วง โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ทั้งจากภาพเศรษฐกิจมหภาค การเคลื่อนย้ายเงินทุน
ตลอดจนความถูกแพงของตลาดเมื่อเทียบกับตลาดต่างๆ ทั่วโลก รวมไปถึงกลุ่มหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จาก
สภาวะเศรษฐกิจขณะนั้นๆ เพื่อให้ได้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุดบนความเสี่ยงที่เหมาะสม
กลยุทธ์การลงทุนสำาหรับพอร์ตสหกรณ์ออมทรัพย์จะเน้นลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ในประเทศเป็นหลักดังนี้
• Overweight : Banking
• Neutral : Energy, Transportation
• Underweight : Media, Aviation