Page 186 - งานจักรยานยนต์
P. 186
182
11.2 ไฟเลี้ยว ไฟแตรและไฟเบรก
11.2.1 หน้าที่ไฟเลี้ยว (Turn Signal Lights)
ไฟเลี ยวเป็นไฟกะพริบ เพื่อเตือนให้ผู้ที่ใช้ ทางร่วมรู้ว่ารถคันหน้าก้าลังจะเลี ยว
หรือแซงสัญญาณไฟเลี ยวกะพริบเกิดจากรีเลย์ไฟ เลี ยวในวงจรแสดงให้เห็นถึงการตัด
ต่อวงจรไฟเลี ยวอย่างสม่้าเสมอ ประมาณ 60-80 ครั งต่อนาที รีเลย์ไฟเลี ยวแบ่งเป็น
แบบคอนเดนเซอร์ และแบบทรานซิสเตอร์ (Transistor)
11.2.2 รีเลย์ไฟเลี้ยวแบบคอนเดนเซอร์ (Capacitor-type Turn Signal Relays)
แบบคอนเดนเซอร์เป็นแบบเก็บประจุ และคายประจุไฟฟ้าไปกระตุ้น
แม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อ สร้างสัญญาณไฟกะพริบผ่านคอนแทค
1. เมื่อเปิดสวิตช์จุดระเบิดไปยังต้าแหน่ง ON กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านไปยังหน้า
คอนแทค P ผ่านไปยังขดลวด L และเก็บประจุใน คอนเดนเซอร์ C
2
2. เมื่อโยกสวิตช์ไฟเลี ยวไปต้าแหน่งเลี ยว ซ้ายหรือขวา กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่าน
หน้าคอนแทค P และขดลวด L ผ่านสวิตช์ไฟเลี ยวและหลอดไฟ เลี ยว F 1
1
หลอดไฟเลี ยว F และหลอดเตือนไฟเลี ยว ที่หน้าปัด PL (Pilot Lamp) ลงดิน
1
1
ครบวงจร ท้าให้หลอดไฟเลี ยวและหลอดเตือนไฟเลี ยวสว่างขึ น
3. ในขณะเดียวกันเมื่อกระแสไฟฟ้าไหล ผ่านขดลวด L ท้าให้แกนรีเลย์ที่ขดลวด
1
พันอยู่ เกิดอ้านาจแม่เหล็ก จึงให้คอนแทค P แยกออก จากกัน หลอดไฟเลี ยวทุก
หลอดจึงดับ
4. ในเวลานั นคอนเดนเซอร์ก็จะคายประจุ ไฟฟ้าออก ผ่านขดลวด L และ L ท้า
2
1
ให้ขดลวด ทั งสองมีอ้านาจแม่เหล็กในการดูดหน้าคอนแทค ให้เปิดค้าง หลอดไฟ
เลี ยวทุกหลอดยังคงดับ
5. เมื่อคอนเดนเซอร์คายประจุหมดแล้ว p จะเริ่มต่ออีกครั งด้วยแรงสปริง
กระแสไฟฟ้าจะ ไหลผ่าน P ขดลวด L และ L ไปยังสวิตช์ไฟเลี ยว และหลอดไฟ
2
1
เลี ยว หลอดไฟเลี ยวจะติดขึ นอีกครั ง ในเวลาเดียวกันกระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งจะไหล
ผ่าน ขดลวดเพื่อประจุ คอนเดนเซอร์กระแสไฟฟ้าจะ ไหลผ่านขดลวด L น้อยลง
2
เมื่อคอนเดนเซอร์ ได้รับการประจุกระแสไฟฟ้าจนเต็ม แต่ขดลวด L ยังมี
1
สนามแม่เหล็กอยู่ จึงดูดให้ P แยกออกจากกัน อีกครั ง หลอดไฟเลี ยวทุกหลอด
ดับ