Page 187 - งานจักรยานยนต์
P. 187
183
11.2.3 รีเลย์ไฟเลี้ยวแบบทรานซิสเตอร์ (Transistor-type Turn Signal Relays)
1. หลอดไฟจะกะพริบทันทีเมื่อโยกสวิตช์ ไฟเลี ยวในต้าแหน่ง ON
2. เมื่อทรานซิสเตอร์ A ถูกกระตุ้นโดย IC ท้าให้กระแสไฟจากแบตเตอรี่ไหล
ผ่านทรานซิสเตอร์ ผ่านสวิตช์ไฟเลี ยวไปยังหลอดไฟเลี ยว ลงดินครบวงจร หลอดไฟ
ติด และเมื่อ IC หยุดการ กระตุ้น ทรานซิสเตอร์จะตัดวงจร ท้าให้กระแสไฟ ไม่ไหล
ผ่านไปยังหลอดไฟเลี ยวได้ หลอดไฟจึงดับ
ข้อควรจ า
- เมื่อหลอดไฟเลี ยวขาดด้านใดด้านหนึ่งหรือสายไฟในระบบขาด รีเลย์ไฟเลี ยวจะ
ตัด-ต่อวงจรรวดเร็วขึ น หลอดไฟเลี ยวที่ เหลืออยู่จึงกะพริบเร็วกว่าปกติ เป็น
สัญญาณเตือนความผิดปกติ
1.2.4 แตร (Horn)
1. หน้าที่แตร
แตรเป็นสัญญาณเตือนด้วยเสียงจากการสันของ แผ่นกระจายเสียง (Diaphragm)
เกิดจากแรงเหนียวน้าแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnet) กระแสไฟฟ้าจะไหลเข้า ไปยัง
ขดลวดแตร (Coil) วงจรไฟแตรจะถูกตัด-ต่อโดย แกนแตรกดขาคอนแทค (Contact
Breaker) เกิดการ เปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กในขดลวด แผ่นกระจายเสียง จะสั่น ท้าให้
เกิดเสียงดัง
2. การท างานวงจรไฟแตร (The Operating Circuit of the Horn)
แสดงวงจรแตร เมื่อกดสวิตช์ แตร กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านสวิตช์แตร ขดลวด L
และผ่านหน้าคอนแทค P ลงดินครบวงจร ขดลวด L จะเกิดสนามแม่เหล็กดึงแกนแตร
(Moving Core) ลง ขณะเคลื่อนที่ลง แกนแตรจะไปดันให้ขาคอนแทคตัด วงจร ท้าให้
ขดลวด L หมดอ้านาจแม่เหล็ก และแกน แตรจะเคลื่อนที่กลับต้าแหน่งเดิม โดยแรงดึง
ของแผ่น กระจายเสียง ในขณะเดียวกัน หน้าคอนแทค P ก็จะต่อ วงจรอีก แกนแตรก็จะ
เคลื่อนที่ลงอีกครั งหนึ่ง โดย อ้านาจแม่เหล็กจากขดลวด L อ้านาจแม่เหล็กจากขดลวด L
ท้าให้แกนแตร เคลื่อนที่ขึ นลงในแนวดิ่ง แผ่นกระจายเสียงสั่นและเกิด เสียงดังขึ น ด้วย
ความถี่เสียงประมาณ 800-1,000 Hz ซึ่งเป็นระดับเสียงที่ไม่เป็นอันตรายต่อหู