Page 35 - หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง ความเร้นลับของพืช 2
P. 35

31


       Guttation



              การสูญเสียนํ้าของพืชอีกประเภทหนึ่งเรียกวา  การคายนํ้าเปนหยด  เปนการ  สูญเสียนํ้า


       โดยเฉพาะในขณะที่สภาวะแวดลอมไมอํานวยตอการคายนํ้า  เชน  ในเวลากลางคืน  ในขณะที่มี


       อากาศเย็น ความชื้นสูงและลมสงบ ในภาวะเชนนี้ ถารากพืชยังสามารถดูดนํ้าเขา จะทําใหเกิด


       แรงดันราก  ซึ่งจะดันใหนํ้าและสารที่ละลายอยูในนํ้า  ในไซเลมไหลออกทางปลายสุดของทอไซ


       เลมคือบริเวณสวนปลายของเสนใบ (vein ending) นํ้าที่ถูกขับออกมาในรูปของหยดนํ้าผานชอง

       เปดที่เรียกวา ไฮดาโทด (hydathode) ตามขอบใบและปลายใบ ภายในของเหลวที่ถูกขับออก


       โดยวิธีการคายนํ้าเปนหยดนี้พบวามี  สารอาหารหลายชนิดเจือปนอยูดวย  ไดแก  สารเกลือแร


       กรดอินทรีย กรดอะมิโน และอื่นๆ



       การลําเลียงนํ้าของพืช




              นํ้าเขาสูรากทางขนรากไดโดย กระบวนการออสโมซิส การแพรธรรมดา (Diffusion) โดย


       ผานไปตามผนังเซลล และชองวางระหวางเซลล















              การลําเลียงนํ้าของพืช จากรากขึ้นไปสูยอดเกิดขึ้นโดยอาศัยกระบวนการตาง ๆ คือ



       1.แรงดึงจากการคายนํ้า  (Transpiration  pull)เมื่อพืชมีการคายนํ้าทางปากใบทําใหเกิดการ


       ลําเลียงเนื่องจากมีแรงดึงระหวางโมเลกุลของนํ้า (Cohesion)




       2. แรงดันราก (Root Pressure) เมื่อรากดูดนํ้าเขาสูรากมาก ๆ จะเกิดแรงดันดันใหนํ้าเคลื่อนที่

       เขาไปสูเซลลถัดไปตามทอลําเลียงนํ้าขึ้นสูยอด




       3.  Capillary  Action  เกิดขึ้นไดเนื่องจาก  แรงดึงดูดระหวางโมเลกุลของนํ้ากับผนังดานขาง


       หลอดในทอลําเลียงของไซเลม (Adhetion)
   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39