Page 236 - report-06-final-ลายนำ_Neat
P. 236

่
                  ้
               หนา ๒๒๖                                                                     ส่วนที ๔




                                                                                         ์
                                                                                          ่
                                                       ่
                                                    ้
                                                 ิ
               อําเภอสะเดา และสํานักงานสรรพสามตพืนทีสงขลา จังหวัดสงขลา ระหว่างวันเสารที ๒ ถึงวัน
               จันทรที ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕
                      ่
                     ์
                                                   ั
                                                      ั
                                               ี
                                    ึ
                            ๒) ศกษาดูงานเกยวกบปญหาและผลกระทบจากการลักลอบนําเข้าและ
                                               ่
                                ์
                                       ่
                                                                                 ่
               จําหน่ายผลตภณฑยาสูบทีผิดกฎหมาย  ณ ด่านศลกากรแมสาย อําเภอแมสาย, ภาคีเครือข่าย
                          ิ
                             ั
                                                           ุ
                                                                    ่
                                                                                   ่
                     ่
               ชาวไรยาสูบแห่งประเทศไทย อําเภอแมสาย และสํานักงานสรรพสามตพืนทีเชียงราย จังหวัด
                                                   ่
                                                                             ิ
                                                                                ้
               เชียงราย ระหว่างวันเสารที ๓ ถึงวันจันทรที ๕ กนยายน ๒๕๖๕
                                                         ั
                                                     ่
                                      ่
                                                   ์
                                     ์
                                                         ึ
                            ๓) ศกษาดูงานเกยวกบการศกษา วิจัย และพัฒนาการใช้ประโยชน์จากกญชา
                                                   ั
                                                                                              ั
                                    ึ
                                               ี
                                               ่
                                                                                               ่
                            ์
               ทางการแพทย  ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยราชมงคลพระนคร กรงเทพมหานคร วันจันทรที ๑๙
                                                                        ุ
                                                    ี
                                                                                             ์
               ธันวาคม ๒๕๖๕

                                       ึ
                                                                                              ํ
                                                              ึ
                           จากวิธีการศกษาโดยการประชุม การศกษาดูงานของคณะอนุกรรมาธิการนาไปสู       ่
                                                                                           ่
               การจัดทํารายงานผลการพิจารณาของคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศกษา ปจจัยทีส่งผลต่อ
                                                                                     ั
                                                                               ึ
                                                                                       ั
                                          ั
                                             ั
               ระบบสุขภาพและติดตามการบงคบใช้ กฎหมายด้านการสาธารณสข ซึงมสาระสําคญ ดังนี       ้
                                                                         ุ
                                                                               ี
                                                                            ่
                           สภาพปัญหา
                                       ี
                                    ุ
                                       ่
                           การสูบบหรเปนปญหาอันดับต้นๆ ต่อการสาธารณสุขของประเทศ ทําให้รฐ
                                            ั
                                         ็
                                                                                                 ั
                                                                                     ้
                                                    ้
               สูญเสียงบประมาณเปนสวัสดิการรักษาผูปวยจํานวนมหาศาลในแต่ละป วันนีคนไทยเสียชีวิต
                                                                                ี
                                                     ่
                                   ็
                                           ุ
                          ่
                                               ี
                          ี
                                                                          ื
                        ่
               ด้วยโรคทีเกยวข้องกบการสูบบหรปละประมาณ ๗๐,๐๐๐ คน หรอเฉลียวันละประมาณ ๒๐๐
                                             ่
                                             ี
                                 ั
                                                                              ่
                                                                         ี
                                                                                    ุ
                                                                               ่
                                                              ้
               คน สรางความเสียหายให้กบประเทศและประชาชนทังผูทีสูบบหรและไมสูบบหร จากข้อมลผล
                                                                                      ่
                                                                 ้
                                                                         ่
                                                                       ุ
                                                                  ่
                                                                                      ี
                                                                                               ู
                                       ั
                     ้
                                                                        ี
                                                                          ้
                                               ี
                                                                                ี
                                                                                  ้
                                                                                ่
                                                                                    ้
               สํารวจโดยสํานักงานสถิติแห่งชาติป ๒๕๖๔ พบว่าประเทศไทยมผูสูบบหรทังสินประมาณ ๙.๙
                                                                              ุ
                                          ่
                                         ่
                                         ู
                            ็
                                                                           ่
               ล้านคน คดเปนอัตราส่วนอยทีร้อยละ ๑๗.๔ ลดลงเพียงเล็กน้อยเมือเปรียบเทียบกับปี ๒๕๖๐
                        ิ
                              ี
                                         ้
               ทีประเทศไทยมผูสูบบหรทังสินประมาณ ๑๐.๗ ล้านคนหรออัตราร้อยละ ๑๙.๑ ซึงหาก
                                                                                             ่
                                                                       ื
                                    ุ
                                           ้
                                       ่
                                ้
                                       ี
                 ่
               พิจารณาแล้วจะพบว่าอัตราการสูบบหรของไทยแทบไมมการเปลยนแปลงอยางมนัยสําคญ หรอ
                                                  ี
                                                                        ่
                                                                 ี
                                                                                            ั
                                                                                                 ื
                                                                        ี
                                                                                      ี
                                                                                  ่
                                               ุ
                                                  ่
                                                               ่
                                                ้
                                                                                                 ่
                 ี
                                                    ่
               มแนวโน้มลดลงเพียงเล็กน้อยเท่านันเมือเปรียบเทียบกับทศวรรษก่อนในช่วงปี ๒๕๕๐ ซึง
                                                                         ้
                                                                      ื
               ขณะนันประเทศไทยมจํานวนผูสูบบหรอยที ๑๐.๘ ล้านคนหรอรอยละ ๒๑.๒ ทังๆ ทีประเทศ
                                                  ี
                                   ี
                     ้
                                                                                      ้
                                           ้
                                               ุ
                                                  ่
                                                     ่
                                                      ่
                                                                                           ่
                                                     ู
                      ั
                                ่
                                       ็
                                                            ุ
               ไทยได้รบการยกยองว่าเปนผูนําในด้านการควบคมการบริโภคยาสูบอันดับต้นๆ ของโลกและ
                                         ้
               ได้รบรางวัลและการยกยองในระดับนานาชาติว่ามมาตรการควบคมและกฎหมายทีเขมงวด ม           ี
                                                                          ุ
                                                                                           ้
                                                                                         ่
                   ั
                                     ่
                                                            ี
                                                                                         ่
                                                                                       ์
                                     ่
                                   ี
                                          ่
               การปรบขึนภาษบหรอยางสมาเสมอ และมหน่วยงานภาคเครอข่ายการรณรงคทีเข้มแข็ง ม             ี
                                          ํ
                      ั
                         ้
                              ี
                                   ่
                                ุ
                                                       ี
                                                                    ี
                                                                        ื
                                          ิ
                                                 ้
                                  ิ
                                    ั
               งบประมาณในการปฏบติภารกจจากทังทางตรงและทางอ้อม
                                ้
                                                                         ่
                                                                           ้
                                                                   ่
                                                               ้
                           ทังนี หากพิจารณาโดยการนํากรอบตัวชีวัดซึงได้แกเปาหมายการลดอัตราการสูบ
                             ้
                 ุ
                                         ุ
                   ี
                                                       ุ
                   ่
                                                                              ี
                          ํ
                         ่
               บหรตามทีกาหนดไว้ในแผนยทธศาสตรควบคมยาสูบแห่งชาติตังแต่ในป ๒๕๕๗ โดยมเปาหมาย
                                                                      ้
                                                                                          ี
                                                                                            ้
                                                  ์
                         ั
                                     ุ
                                                      ้
               ในการลดอตราการสูบบหรให้ลดลงเหลือรอยละ ๑๘.๗ และภายในป ๒๕๖๒ ให้ลดลงเหลือ
                                                                              ี
                                        ่
                                        ี
               รอยละ ๑๖.๗ กพบว่าประเทศไทยยงไมเคยประสบความสําเรจและพลาดเปาหมายทัง ๒ ครง
                                                ั
                              ็
                                                   ่
                                                                                                 ้
                                                                                                 ั
                                                                      ็
                                                                                           ้
                ้
                                                                                   ้
               นอกจากนี เปาหมายตาม Global Target ทีประสานกับองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ใน
                         ้
                            ้
                                                        ่
                                                                                           ี
                                            ุ
                                                                          ้
               ความพยายามลดอัตราการสูบบหรในประเทศให้ลดลงเหลือเพียงรอยละ ๑๕ ภายในป ๒๕๖๘
                                              ่
                                              ี
   231   232   233   234   235   236   237   238   239   240   241