Page 70 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 70
ยาสูบก็บอกเขาๆ ก็เอามาห้อยที่ต้นกามพฤกษ์ ขอสุราเขาๆ ก็ไม่ให้
ชาวบ้านยืนยันสมัยต้นกามพฤกษ์ไม่มีมนุษย์ดื่มสุราเมรัย อย่ามา
แหกปากขออยู่เลยไม่มีให้ พวกนักสวดก็หัวเราะชอบใจที่ชาวบ้านเขา
ว่าเข้าให้ ออกบทสวดใหม่บอกว่าแล้วแต่พี่ป้าน้าอาจะศรัทธาท�าบุญแก่
พระมาลัย คราวนี้เขาก็เอาสตางค์มาห้อยไว้ที่กิ่งไม้เป็นรางวัลในการ
สวด คงจะเอาไปซื้อสุราดื่มเป็นแน่ เพราะพวกนี้โดยมากชอบดื่ม เวลา
นี้การสวดพระมาลัยเป็นอันสูญหมดแล้ว
บุญศพสมัยนี้สวดกันพอเป็นพิธี กรุงเทพฯ เริ่มแต่ ๒๐.๐๐ น.
พอถึง ๒๑.๐๐ น. ก็เลิก เจ้าภาพจะไม่เลิกก็ไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่เขา
เก็บเครื่องใช้สอยแสดงว่าจบพิธีแล้ว เจ้าภาพก็เตรียมบังสุกุลแล้วต่าง
คนต่างกลับไป
การสวดพระธรรมในงานศพนั้น ถ้าจะเอาประโยชน์จริงๆ สวด
พระมาลัยเป็นดีที่สุด แต่อย่าให้ตลกคะนอง สวดเรียบร้อย แต่ก่อนนั้น
เขามีคฤหัสถ์ชุดหนึ่งสวดยกร้าน ใช้ฆราวาส ๔ คนเหมือนกัน สวด
พระธรรมพอเป็นพิธีแล้วสวดออก ๑๒ ภาษา เขาหากันแพง ตลกขบขัน
ดีเหมือนกัน เขาสวดกันโดยเฉพาะ ไม่เหมือนพวกสวดท้ายพระสงฆ์
ดังกล่าว สวดคฤหัสถ์นั้นมีราคา เขาหากันสมัยนั้นตั้งร้อยชั่งต่อ ๑ คืน
ชั้น ๑ ถึง ๕ ชั่ง ต่อคืน
44 จรัมบุญ