Page 72 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 72

ที่เป็นลูกของนางโมคคัลลีว่าโมคคัลลานะ โมคคัลลานะนี้เป็นผู้มีปัญญา
                มาก ได้ศึกษาจบไตรเพทตามสกุลพราหมณ์ บ้านเดิมอยู่ใกล้เคียงกับ

                บ้านพระสาริบุตร จึงคุ้นเคยและรักใคร่กันมาก เพราะมีปัญญาเทียบ

                เท่ากัน มีการศึกษาดีเท่ากัน มารดาบิดามีหลักทรัพย์เสมอกัน จึงท�าให้
                สองสกุลสนิทกันเหมือนญาติพี่น้อง
                       เมื่อจบการศึกษาชั้นต้นแล้ว  ก็หันเข้ามาศึกษาทางศาสนา

                เข้าเป็นบริษัทปริพพาชกเล่าเรียนลัทธินั้นจนจบหลักสูตร  การเป็น

                สมาชิกปริพพาชกนั้น  พระสารีบุตรร่วมใจด้วย  ครั้นแล้วเห็นว่าลัทธิ
                ปริพพาชกนั้นไม่มีสาระอะไรมากนัก วันหนึ่งไปดูมหรสพที่เขาคิชฌกูฏ
                ทั้ง ๒ สหายเกิดความสลดจิตคิดเห็นว่า คนพวกนี้ไม่ถึงร้อยปีก็จะต้อง

                จากโลกไป  จะสนุกส�าราญอะไรในเรื่องการละเล่น  เราทั้ง  ๒

                ควรแสวงหาโมกขธรรมดีกว่า สารีบุตรและโมคคัลลานะท�ากติกากันว่า
                เราทั้ง ๒ ต้องแยกทางกันออกแสวงหาโมกขธรรม ถ้าใครผู้ใดได้บรรลุ
                ถึงโมกขธรรม  ผู้นั้นต้องกลับน�ามาแจ้งให้ทราบ  เมื่อตกลงกันแล้ว

                ต่างคนต่างจากกัน

                       วันหนึ่งสารีบุตรปริพพาชก  ได้พบพระอัสสชิเถระก�าลัง
                เดินโปรดสัตว์อยู่ข้างถนน  พอได้เห็นก็เกิดความข้องใจและสนใจ
                ในพระเถระ เนื่องด้วยการนุ่งห่มก็ผิดปกตินักบวชในสมัยนั้น มรรยาท

                ก็แปลกตา  สงบเสงี่ยมไม่ล๊อกแล๊กเหมือนสมณะนิกายอื่น  เดินด้วย

                การส�ารวม ทอดสายตาไปเพียงชั่วแอก (ประมาณ ๔ ศอก) อินทรีย์
                สงบ  ผิวหน้าผ่องใส  คุณสมบัตินี้จับใจยิ่งนัก  คิดในใจว่านักบวชผู้นี้
                มาจากนิกายไหน จึงมีมรรยาทน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ครั้นจะถามท่านกลางถนน

                ก็เห็นว่าไม่เป็นมรรยาทที่ดีงาม จึงยั้งใจไว้เดินตามไปเบื้องหลัง







            46 จรัมบุญ
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77