Page 94 - หนังสือจรัมบุญ ที่ระลึก ๑๒๓ ปีชาตกาล งานวันมูลนิธิสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริหาเถร) ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒.
P. 94

จะเป็นบุญเก่าเตือนใจหรืออย่างไรไม่ทราบ  วันหนึ่งติดตาม
                ชาวบ้านไปฟังเทศน์ในวันอุโบสถ  พระท่านแสดงธรรมรวมความตาม

                พระพุทธวจนะว่า
                              บุคคลควรกล่าวคําสัตย์

                              บุคคลไม่ควรโกรธ
                              บุคคลพึงให้แก่ผู้ขอแม้มีวัตถุน้อย

                       บุคคลจะไปสู่ส�านักเทพยดาทั้งหลายได้ เพราะเหตุ ๓ อย่างนั้น

                เมื่อได้ฟังเทศน์ดังนั้นก็ได้สติ และพระท่านสอนว่า ใครผู้ใดย่อมผูกใจ
                เจ็บว่า ผู้นี้ได้ด่าเรา ได้ฆ่าเรา ได้ชนะเรา ได้ลักสิ่งของๆ เรา เวรของเขา
                ย่อมไม่ระงับ  มีแต่จะงอกงามด้วยเวร  ตั้งแต่นั้นดิฉันก็ท�าในใจว่า

                “ฉันไม่โกรธ” เมื่อกระทบกับอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ ก็นึกภาวนาในใจว่า

                “ฉันไม่โกรธ”
                       พระคุณเจ้าผู้เจริญ การท�าในใจว่า “ฉันไม่โกรธ” นั้น เป็นยา
                ดับโมโหได้อย่างศักดิ์สิทธิ์  เมื่อก่อนนั้นฉันมีโทสะเป็นเจ้าเรือน

                ไม่ยอมให้ใครมาเหยียดหยามได้ง่ายๆ  เมื่อได้ฟังพระท่านสอนแล้ว

                ชาวบ้านเรือนเคียงจะกล่าวค�าร้าย  ดิฉันนึกในใจว่า  “ฉันไม่โกรธ”
                สามีตวาด ก็นึกในใจตอบว่า “ฉันไม่โกรธ” ความสงบเกิดในเพื่อนบ้าน
                แม้ในครัวเรือนก็เงียบลง สามีจะตีก็เชิญตี จะด่าก็เชิญด่า “ฉันไม่โกรธ”

                ในที่สุดก็ต้องมาลุกะโทษล่วงเกินฉัน  เมื่อดิฉันดับความโกรธได้

                ได้รับเมตตาปรานีจากทุกคน  จะพูดจาอย่างไรเขาก็เชื่อฟัง  ดิฉันได้
                รักษาใจในบทภาวนาว่า “ฉันไม่โกรธ” อย่างเคร่งครัด อยู่เย็นเป็นสุข
                ตลอดมา เมื่ออยู่ในมุนษย์โลกไม่ได้ วิญญาณก็ละร่างกายของมนุษย์

                มาได้ร่างกายของชาวสวรรค์อยู่ในบัดนี้ ดิฉันรักษาใจไม่ให้โกรธอย่างเดียว

                ได้อานิสงส์ถึงเพียงนี้




            68 จรัมบุญ
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99