Page 44 - บทความ พระครูโสภณวีรานุวัตร.
P. 44
การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาจิตใจและสังคมอย่างยั่งยืนในยุค Thailand 4.0
Research and Innovation for Sustainable Mental and Social Development in Thailand 4.0 661
จะเห็นได้ว่า พระพุทธเจ้านั้น พระองค์มีความหลากหลายของวิธีสอนที่จะท าให้การเรียนการสอน
ของพระองค์นั้นประสบผลส าเร็จ กล่าวคือ เกิดผลดีทั้งฝ่ายพระองค์เองและตัวผู้เรียนก็จะได้น าความรู้ที่ได้ใป
ใช้ในการด าเนินชีวิตประจ าวันและอยู่ในสังคมได้ ความส าเร็จของกระบวนการเรียนการสอนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่า
ผู้สอนนั้นมีถ่วงท่าลีลาการสอนแบบไหนบ้าง ที่จะท าให้การสอนของตนเองประสบผลส าเร็จ พระพุทธเจ้านั้น
พระองค์มีมีรูปแบบของพุทธลีลาการสอนเฉพาะพระองค์เอง จึงท าให้การสอนของพระองค์ถึงจุดมุ่งหมายทีได้
ตั้งไว้
ดังนั้น จึงมีรูปแบบพุทธลีลาการสอนของพระพุทธเจ้าเป็นตัวอย่างของครูผู้สอนทั่วๆ ไปรูป แบบลีลา
การสอนของพระพุทธเจ้า
การสอนของพระพุทธเจ้าแต่ละครั้ง พระองค์ได้ด าเนินการสอนจนสามารถท าให้ผู้เรียนเกิดการ
เรียนรู้กับสิ่งที่พระองค์ทรงยกขึ้นสอนได้ตามจุดมุ่งหมายทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะว่าพระองค์มีความหลากหลายของ
รูปแบบลีลาการสอนของพระองค์ ซึ่งลีลาการสอนของพระองค์ที่ท่านนักปราชญ์หลายท่านได้กล่าวไว้
ดังต่อไปนี้
ข้อที่ 1 พระองค์ทรงชี้ทางแสดงอย่างละเอียดลออแจ่มแจ้งชัดเจน
ข้อที่ 2 พระองค์ชักชวนเชิญชวนให้ผู้ฟังโดยบอกว่า สิ่งนี้ดี สิ่งนี้สมควรท า สิ่งนี้ไม่ดี สมควรไม่
กระท า เชิญชวนให้ผู้ฟังให้ถือปฏิบัติ บอกให้ยึด บอกให้เอาไป ซึ่งเรียกอย่างง่ายๆ ว่า เป็นการหยิบยื่นให้
ข้อที่ 3 พระองค์กระตุ้นให้เกิดเตชะ (เดช) ภาษาสมัยใหม่ว่า “ไฟ” พระองค์ทรงจุดประกายให้
เกิดความกล้าหาญ ให้เกิดความอึกเหิมคิดจะต่อสู้กับสิ่งทั้งหลายทั้งปวง
ข้อที่ 4 พระองค์ให้เกิดความรื่นเริงบันเทิงใจ อันที่จะเกิดจากหลักการสอนทั้ง 3 ข้อ ข้างต้น กล่าว
คือ หลักธรรมค าสอนที่พระองค์ ทรงชี้แจง แสดงอย่างแจ่มแจ้งชัดเจน พร้อมทั้งชักชวนเชิญชวน อันเป็น
แรงกระตุ้นให้เกิดความกล้าหาญ และกล้าแสดงออก ซึ่งที่ไม่เข้าใจแจ่มแจ้งวันนี้จะได้เข้าใจอย่างชัดเจน
ก าจัดความเคลือบแคลงสงสัยไม่ให้เกิดขึ้นอีกต่อไป พร้อมทั้งก าจัดความเห็นผิด(มิจฉาทิฏฐิ) ท าให้ความเห็น
6
ตรง จิตใจผ่องใสอย่างรื่นเริงบันเทิงใจ อาจผูกเป็นค าสั้นๆ ว่า “แจ่มแจ้ง จูงใจ หาญกล้า ร่าเริง หรือชี้ชัด
เชิญชวน คึกคัก และเบิกบาน”
จากหลักการของกระบวนการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง ( Child centered) นั้น
พระพุทธศาสนานั้นมีหลักการและวิธีสอนแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่อดีตโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นต้นแบบฉบับ
ของการสอนรูปแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางนี้ เพราะว่า หลักการสอนพร้อมทั้งวิธีการสอนของพระพุทธเจ้าก็มี
ความสมบูรณ์ตรงตามหลักปรัชญาการศึกษาในยุคการปฏิรูปการศึกษาสมัยใหม่ที่ว่า “เก่ง ดี และมีสุข” ซึ่ง
ถ้าจะเปรียบเทียบกับความหมายของค าว่า นักเรียนเป็นศูนย์กลางในยุคปฏิรูปการศึกษาในสมัยปัจจุบันก็คือ
ค าว่า “ ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง” หมายถึง ผู้เรียนเป็นคนส าคัญที่สุด ในการจัดการเรียนการสอนแบบผู้เรียน
เป็นศูนย์กลาง คือ การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้มากที่สุด มีการ
บันทึกข้อมูลและดึงข้อมูลออกมาใช้ วิธีการเรียนรู้มีผลต่อการจ า การลืม และถ่ายโอนความรู้ แรงจูงใจ
6 พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตฺโต). พุทธวิธีในการสอน. (กรุงเทพมหานคร : สหธัมมิก, 2541) หน้า 45