Page 12 - Thai words in old&new theory
P. 12
9
บอกผู้รับผลประโยชน์ เช่น โรงเรียนมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนเรียนดี
บอกเวลา เช่น โรงเรียนจะเริ่มจัดกิจกรรมตั้งแต่เก้าโมงจนถึงบ่ายสามโมง
บอกเครื่องมือที่ใช้ทำ เช่น เล็บจะต้องตัดโดยกรรไกรตัดเล็บ
บอกสิ่งที่ต้องการเปรียบเทียบ เช่น ผู้ชายแข็งแรงกว่าผู้หญิง
9. คำเชื่อม คือ คำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคเข้าด้วยกัน
มี 4 ชนิด ดังนี้
9.1 คำเชื่อมสมภาค คือ ใช้เชื่อมหน่วยทางภาษา 2 หน่วยขึ้นไป ภาษาที่เชื่อมต้องเป็นหน่วยภาษาเดียวกัน
คือ คำนามกับคำนาม หรือคำกริยากับคำกริยา เป็นต้น คำเชื่อมสมภาคได้แก่ กับ (กะ) และ หรือ แต่
เช่น น้ำกับน้ำมันเข้ากันไม่ได้ (คำนามกับคำนาม)
9.2 คำเชื่อมอนุประโยค คือ นำหน้าอนุประโยคซ้อน มีคำเชื่อมอนุประโยค 3 ชนิด
9.2.1 ) คำเชื่อมนามานุประโยค ได้แก่ ที่ ว่า ให้ ที่ว่า เช่น เขาพูดว่าเขาจะมา
9.2.2 ) คำเชื่อมคุณานุประโยค ได้แก่ ที่ ซึ่ง อัน เช่น เด็กที่ได้รับรางวัลเป็นรุ่นน้องของฉัน
9.2.3 ) คำเชื่อมวิเศษณานุประโยค มี 2 ประเภทตามตำแหน่งที่ปรากฎ
1. ปรากฏหลังประโยคหลัก ได้แก่ เพราะ ถ้า จนกระทั่ง เมื่อ ขณะที่ ฯลฯ
เช่น เขาไม่มาทำงานเพราะลูกไม่สบาย
2. ปรากฏต้นประโยค ได้แก่ จึง เลย ถึง ก็ เช่น ถึงฝนตก ก็ต้องออกไปทำงาน
์
9.3 คำเชื่อมเสริม คือ คำเชื่อมที่มีขึ้นเพื่อเสริมให้หน่วยภาษา ๒ หน่วยมีความสัมพันธกันชัดเจนขึ้น
ได้แก่ จึง เลย ถึง ก็ ได้แก่ จึง เลย ถึง ก็
คำเชื่อมเสริมอาจปรากฏใน
ประโยคสามัญ มักปรากฏหน้าประโยคสามัญ จะใช้เชื่อมกับสถานการณ์หรือสิ่งที่กล่าวก่อนหน้า
ปรากฏคำวิเศษณ์แสดงคำถามต้นประโยค ได้แก่ จึง ถึง
ปรากฏคำสรรพนามแยกส่วน “ต่าง,บ้าง” จะมีคำเชื่อมเสริมคือ “ก็”
เช่น บ้างก็กิน บ้างก็นอน เราต่างก็โตๆ กันแล้ว
ประโยครวม คำเชื่อมจะปรากฏระหว่าง 2 ประโยค เช่น เขาเป็นไข้และก็เจ็บคออย่างหนัก
ประโยคซ้อน ปรากฏหลังคำเชื่อมสมภาคแหน้าคำเชื่อมนามานุประโยค
ปรากฏหน้ากริยาวลีในประโยคหลัก เช่น เมื่อไม่สบาย ก็ควรนอนพักผ่อนให้มากๆ
9.4 คำเชื่อมสัมพันธสาร คือ การรวมประโยค 2 ประโยคขึ้นไปให้กลายเป็นพันธสารเดยว ได้แก่ กล่าวคือ
ี
อย่างไรก็ตาม อย่างไรก็ดี อย่างไรเสีย แม้กระนั้น ในที่สุด ทว่า แต่ทว่า ทั้งนี้ อนึ่ง ฯลฯ
หมายเหต ในคำเชื่อมพันธสารบางคำมีรูปซ้ำกับคำเชื่อมอื่น เช่น และ แล้ว ก็
ุ