Page 22 - _____ 2 _______Neat
P. 22

การพัฒนาตน


                                     1.2.1.1 ทฤษฎีสัญชาตญาณ (Instinct Theory)
                                               สัญชาตญาณมนุษย (Instinct) คําวา “สัญชาตญาณ” เปนคําที่ใชกัน

                       แพรหลายในวิชาจิตวิทยา แมแตในชีวิตประจําวันก็นําเอาคําวา สัญชาตญาณมาพูดกันอยูเสมอ ๆ

                       สัญชาตญาณ หมายถึง พฤติกรรมของมนุษยที่ติดตัวมาตั้งแตเกิด ซึ่งมีลักษณะเหมือน ๆ กันใน
                       มนุษยทุกผูทุกนาม เกิดขึ้นเองเปนเอง โดยไมมีการฝกฝนหรือเรียนรู วิลเลียม เจมส (William

                       James) นักจิตวิทยายุคบุกเบิกคนสําคัญของสหรัฐอเมริกา กลาววา มนุษยมีสัญชาตญาณตาง ๆ

                       กวา 6,000  ชนิด พฤติกรรมตาง ๆ ของมนุษย เชน การดูด การกิน การยิ้ม ความโกรธ การเดิน

                       การเขาสังคม ฯลฯ ลวนแลวแตเกิดจากสัญชาตญาณทั้งสิ้น ดังนั้น ในระยะนั้นจึงนิยมนําเอา คําวา
                       สัญชาตญาณไปอธิบายพฤติกรรมตาง ๆ ของมนุษย เชน การรองไหครั้งแรกของเด็กเมื่อคลอดออก

                       จากครรภมารดาก็เปนเพราะสัญชาตญาณ การอยูรวมกันเปนกลุมเปนสังคม เปนหมูคณะก็เปน

                       เพราะสัญชาตญาณของมนุษย อยางไรก็ดี ปจจุบันนี้ความเชื่อตามทฤษฎีสัญชาตญาณไดเสื่อม

                       ความนิยมลงไป เพราะมีขอเท็จจริงหลายอยาง
                                               สัญชาติญาณ เปนพฤติกรรมที่มนุษยแสดงออกโดยอัตโนมัติตาม

                       ธรรมชาติของชีวิต เปนความพรอมที่จะทําพฤติกรรมไดในทันทีเมื่อปรากฏสิ่งเราเฉพาะตอ

                       พฤติกรรมนั้น สัญชาติญาณ จึงมีความสําคัญตอความอยูรอดของชีวิตในสัตวบางชนิด เชน ปลา

                       กัดตัวผูจะแสดงความกาวราว พรอมตอสูทันทีที่เห็นตัวผูตัวอื่น สําหรับในมนุษยสัญชาติญาณ

                       อาจจะไมแสดงออกมาอยางชัดเจนในสัตวชั้นต่ํา แตบุคคลสามารถรูสึกได เชน ความใกลชิด
                       ระหวางชายหญิงทําใหเกิดความตองการทางเพศได พฤติกรรมนี้ไมตองเรียนรู เปนรูปแบบ

                       พฤติกรรมที่ตายตัวแนนอน ซึ่งกําหนดมาตามธรรมชาติ จากปจจัยทางชีวภาพในปจจุบัน

                       การศึกษาสัญชาตญาณเปนเพียงตองการศึกษาลักษณะการตอบสนองขั้นพื้นฐาน เพื่อความ

                       เขาใจพฤติกรรมเบื้องตนเทานั้น

                                      2.2.1.2 ทฤษฎีแรงขับ
                                               แรงขับ (Drive)  เปนกลไกภายในที่รักษาระบบทางสรีระใหคงสภาพ

                       สมดุลในเรื่องตาง ๆ ไว เพื่อทําใหรางกายเปนปกติหรืออยูในสภาพ โฮมิโอสแตซิส (Homeostasis)

                       โดยการปรับระบบใหเขากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทฤษฎีแรงขับอธิบายวา เมื่อเสียสมดุลใน
                       ระบบโฮมิโอสแตซิส จะทําใหเกิดความตองการ (Need)  ขึ้นเปนความตองการทางชีวภาพ เพื่อ

                       รักษาความคงอยูของชีวิต และความตองการนี้จะทําใหเกิดแรงขับอีกตอหนึ่ง

                                               แรงขับเปนสภาวะตื่นตัว ที่พรอมจะทําอยางใดอยางหนึ่ง ใหกลับคืนสู

                       สภาพสมดุลเพื่อลดแรงขับนั้น (Drive Reduction) ตัวอยางเชน การขาดน้ําในรางกายจะทําใหเสีย
                       สมดุลทางเคมีในเลือด เกิดความตองการเพิ่มน้ําในรางกาย แรงขับที่เกิดจากความตองการน้ํา คือ

                              52
   17   18   19   20   21   22   23   24   25   26   27