Page 27 - _____ 2 _______Neat
P. 27

การพัฒนาตน


                       แรกลองผิดลองถูกจนสําเร็จ เมื่อทําซ้ําอีกครั้ง ก็จะเกิดการเรียนรูจนทําใหสําเร็จไดเร็วขึ้น เชน ลอง
                       เขาไปเลนเกมสเขาวงกต และลองหาทางออกจนสําเร็จ เมื่อไดเขาไปเลนอีกครั้งก็หาทางออกไดเร็ว

                       ขึ้น แสดงเกิดการเรียนรูแบบสรางความสัมพันธเชื่อมโยง

                                               1.3  ทฤษฎีการเรียนรูดวยการหยั่งรู (Insight Learning)   เปน

                       พฤติกรรมที่เกิดขึ้นในสัตวชั้นสูงเนื่องจาก มีความซับซอนในดานการคิดและการแกปญหา เพื่อให
                       เกิดผลลัพธที่ตองการ สามารถแกปญหาไดโดยไมตองลองผิดลองถูก แตใชประสบการณเดิมที่เคย

                       มีมากอนแลว เมื่อเผชิญกับปญหาที่คลายคลึงกันก็จะสามารถแกปญหาไดทันที

                                               1.4  ทฤษฎีการเรียนรูทางสังคม (Social Learning Theory) มีความ

                       เชื่อวา  โดยสวนมากมนุษยเรียนรูโดยการสังเกตตัวแบบหรือการเลียนแบบ เฉพาะที่ตัวแบบไดรับ
                       การเสริมแรงเปนรางวัล โดยไมจําเปนตองทําตามตัวแบบในทันที แตอาจจะจํา ไวไปคิดหรือ

                       ทดสอบดูกอน  สําหรับการที่ไดสังเกตตัวแบบเปนเวลานาน เชน ลูกที่มีพอแมเปนตัวแบบ จะ

                       เลียนแบบทําตามอยางพอแมโดยไมรูตัว เพราะการเรียนรูแบบนี้จะแฝงอยูในความคิดกอนที่จะ

                       แสดงออกมาใหเห็นอยางเดนชัด พฤติกรรมของบุคคลหลายอยางเกิดจากการกระทํา ตามตัวแบบ

                       ที่เขานิยมชมชอบ
                                               1.5  กลุมทฤษฎีมนุษยนิยม (Humanism)  มีความเชื่อวามนุษยมี

                       ศักยภาพตามธรรมชาติที่จะเรียนรู และการเรียนรูจะไดผลดีหากการเรียนรูนั้น มีความหมาย หรือ

                       เปนสิ่งที่ผูเรียนสนใจอยากรูอยางแทจริง และเนนเรื่องการเรียนรูเปนการพัฒนาตนเอง โดยเชื่อวา

                       มนุษยทุกคนโดยกําเนิดทุกคนตองการกระทําดี ตองการพัฒนาศักยภาพของตนไปจนเจริญสูงสุด

                       ซึ่งการเรียนรูจะไดผลดีหากผูเรียนมีความเปนอิสระ ปราศจากสิ่งรบกวน ขมขูหรือขัดขวาง


                       ตอนที่ 2.3 ปจจัยพื้นฐานของพฤติกรรมมนุษยทางสังคมวิทยา

                                เรื่องที่ 2.3.1 ลักษณะทางสังคม
                                      ลักษณะทางสังคม หมายถึง สิ่งแวดลอมทางสังคมที่บุคคลประสบอยูจากอดีตสู

                       ปจจุบันซึ่งอาจบีบคั้น ยับยั้งหรือเอื้ออํานวยใหบุคคลแสดงพฤติกรรมอยางใดอยางหนึ่ง (ทิพยสุดา

                       จันทรแจมหลา. 2544  :  19)  ซึ่งสิ่งแวดลอมของเด็ก ประกอบดวย พอ แม พี่นอง ครูอาจารยกลุม
                       เพื่อน สื่อตาง ๆ เปนตน ซึ่งเด็กจะเกิดการเรียนรูลักษณะทางสังคม รูปแบบพฤติกรรมตาง ๆ ที่เด็ก

                       พบจะคอย ๆ ซึมซับเขาไวในรูปแบบของความเชื่อ คานิยม เจตคติซึ่งสงผลใหเกิดเปนแนวทางใน

                       การแสดงพฤติกรรมของตน โดยกระบวนการเรียนรูนี้อาจเรียกไดวา เปนกระบวนการถายทอดทาง






                                                                                                       57
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32