Page 410 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 410
ี
ั
ผ้าท่ถือกันว่า เขาสละความเป็นเจำ้าของออกแล้ว ดังน้นแบบของ
่
ี
ี
ึ
�
่
จำวรพระสงฆ์จำงจำะต้องสามารถนาผ้าทได้มาแต่ทีต่าง ๆ ในโอกาส
ต่าง ๆ และเป็นผ้าขนาดต่าง ๆ นามาเย็บต่อกันเข้าได้ตามแบบท
่
�
ี
�
ื
้
ั
�
ั
กาหนดไว้ โดยเม่อนาผ้าเหล่านนมาต่อกนเข้าตามแบบแล้ว จำะได้
ื
เป็นผ้าจำีวรซึ่ึ่งมีรูปแบบอย่างเดียวกันหมดในคณะสงฆ์ เป็นเคร่อง
ี
่
ุ
ี
ู
ี
น่งห่มของพระสงฆ์ทเรยบร้อย ดดไม่น่าเกลยด ถ้าสมมตว่าเกดแผล
ิ
ิ
ุ
ี
ผ้าเปื่อยจำะขาด ก็ให้ขาดเฉพาะตรงน้น และสามารถหาผ้ามาใหม่
ั
ั
ึ
ั
ี
ใส่แทนท่ตรงช่องน้นท้งช่อง ซึ่่งพอจำะหาได้ไม่ยาก เพราะเป็นช่องไม่
�
ื
กว้างใหญ่ และเม่อเย็บเข้าแทนในช่องแล้ว ก็ยังทาให้ผ้าจำีวรผืนน้น
ั
มีลักษณะคงรูป คงแบบ (เป็นช่องเป็นตารางคงสัดส่วนและรูปแบบ)
ทรงแนะพระอานนท์ว่า ให้ออกแบบท�าจำีวรเหมือนทุ่งนาของชาวมคธ
ี
ื
ท่ปรากฏอยู่เบ้องล่างข้างหน้านู้น พระอานนท์ก็ออกแบบเป็นจำีวร
ั
ี
ึ
อย่างท่พระสงฆ์สามเณรใช้อยู่กระท่งทุกวันน้ ซึ่่งในจำีวรจำะมีเป็นตา
ี
�
�
เป็นช่อง มีช่องแคบเหมือนกับร่องเหมืองสาหรับส่งน้าไปในท้องนา
ี
แปลงต่าง ๆ ในประเทศไทยเราจำีวรชุดครองท่พระสงฆ์ใช้ ซึ่่งก็ต้อง
ึ
ตัดเย็บถูกต้องตามพระธรรมวินัย ตามแบบจำีวรท่ออกแบบโดย
ี
่
พระอานนท์ ซึ่งอาศัยรปแบบของท้องนาของชาวมคธเป็นแบบอย่าง
ึ
ู
ึ
ุ
ื
ุ
่
ตามพระพทธดารของพระพทธองค์ ซึ่่งเกิดข้นเมอตอนพระพุทธองค์
ิ
�
ึ
ประทับอยู่ตรงหน้าผา ทักขินาคีรีชนบท น้เอง..
ี
ื
ึ
ท่เขาคิชฌกูฏน้ ยังมีเหตุการณ์ทสาคัญเกิดข้นหลายเร่องใน
่
ี
ี
ี
�
่
ื
ั
สมัยพทธกาลโน้น เรองพระเทวทตกระทาอนันตริยกรรม, กรรมหนัก,
ุ
�
กล้งหินใหญ่ให้เคล่อนไหลลงมา เพ่อให้ทับพระพุทธองค์ อันเป็น
ื
ื
ิ
บาปหนักในพระพุทธศาสนา เรียกว่า “อนันตริยกรรม” พระเทวทัตเอง
ก็เป็นเจำ้าชายพระองค์หน่งนะ เหมือนกับพระพุทธองค์ท่เป็นเจำ้าชาย
ี
ึ
ิ
์
แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ พระเทวทัตเป็นเจำ้าชายอยู่ในแคว้นโกลิยะ มีศักด
l
396 พระพิชิต ชิตมาโร