Page 412 - Book-LP-Pichit_524 PAGES_1800 Smallest
P. 412

�
                                   ี
                                                                   ี
            ว่า ภิกษุฉันภัตตาหารท่ปรุงสุกด้วยไฟความร้อนได้ และมกาหนดมิให้
                                             ี
                                                     ื
                  ื
            ฉันเน้อของสัตว์สิบประการเหล่าน้ คือ เน้อมนุษย์, ช้าง, ม้า, หมา,
                                                                           ี
            งู, ราชสีห์, หมี, เสือดาว, เสือโคร่ง, เสือเหลือง ซึ่่งแต่ละสัตว์ท่ทรง
                                                              ึ
            ห้ามฉันเน้อน้ ก็มีสาเหตุแห่งการห้ามฉันเอาไว้พร้อม อน่ง ภิกษจำะฉัน
                                                                         ุ
                      ื
                                                                   ึ
                         ี
                                            ี
                                     ื
               ื
                                                                           ื
            เน้อสัตว์ได้ ก็ต้องเป็นเน้อสัตว์ท่มิได้สงสัยว่ามีการเจำาะจำงฆ่าเพ่อให้
                         ิ
                                                ุ
                            ุ
                                           �
                                    ื
                                    ้
            เป็นอาหารภกษ และเนอต้องทาให้สกแล้วด้วยไฟความร้อน อาหาร
                  ี
                                            ี
               ื
            เน้อท่พระภิกษุฉันก็เป็นอาหารท่ชาวบ้านเขากินกันปรกติท่วไป หาก
                                                                     ั
                                            ี
            ทรงบญญัตไม่ให้ภิกษุฉันเน้อดังท่พระเทวทัตทูลขอ จำะเป็นการปฏบัต
                       ิ
                  ั
                                                                            ิ
                                      ื
                                                                               ิ
                 ี
                                     ึ
            ตนท่สุดโต่งจำนเกินไป ซึ่่งพระพุทธศาสนาสอนให้เดินทางสายกลาง
                                                      ี
            ไม่อวดอ้างโดดเด่นไปด้านใดอยู่แล้ว การท่บริโภคภัตตาหารธรรมดา
                                  ี
                                                                 ี
            ท่อาจำมีเน้อสัตว์ โดยท่เราไม่ได้มีเจำตนาความพยายามเก่ยวข้องกับการ
              ี
                      ื
                                                                               ิ
                                                    ี
                                                                               ์
            ตายของสัตว์เลยน้น นับเป็นภัตตาหารท่ประกอบด้วยเจำตนาบริสุทธ
                              ั
                     ี
            สมควรท่พระภิกษจำะบริโภคได้ พระเทวทัตทูลขอพระพุทธองค์อีก
                               ุ
                          ื
            หลายเร่อง เพ่อปรับปรุงกจำกรรมความเป็นอยู่ของคณะสงฆ์ เพราะตน
                                     ิ
                    ื
                                                                  ี
            มองเห็นว่าความเป็นอยู่ของภิกษุตามพระธรรมวินัย ท่พระพุทธองค์
                           ั
            ทรงบัญญัติไว้น้น ย่อหย่อน ไม่เด่นชัดและโด่งดังสามารถเชิดหน้าชูตา
            ต่อลัทธิอ่น ๆ เขา และท้งแสดงความอยากจำะเป็นใหญ่เป็นผู้ปกครอง
                     ื
                                    ั
            ในคณะสงฆ์เสียเองในหลายวาระ แต่พระพุทธองค์ทรงพจำารณาด้วยด
                                                                  ิ
                                                                               ี
            แล้วเห็นว่าจำะเกิดเป็นโทษเสียมากกว่า พระองคจำึงไม่ทรงอนุญาตตาม
                                                          ์
              ี
            ท่ทูลขอเลย ต่อมาพระเทวทัตถึงกับคิดประทุษร้ายต่อพระพุทธองค
                                                                               ์
            เช่น ในคราวกล้งหินใหญ่ลงมาจำากเขาคิชฌกูฏ จำะให้ทับพระพุทธองค์

                            ิ
                                                                         ื
                                        ึ
                                           ี
                     ั
                                                            ี
            ในคราวน้น เหตุการณ์เกิดข้นท่เขาคิชฌกูฏแห่งน้ กล่าวว่า เม่อพระ
            พุทธองค์เสด็จำประทับอยู่เชิงเขาเบื้องล่าง พระเทวทัตก็กลิ้งก้อนหินใหญ่
                                                                               ี
                                  ี
            ลงมา หวังจำะให้บดขย้พระพุทธองค์ให้แหลกลาญ แต่ด้วยพระบารม
                                                                          ื
                                       ั
                                                                               ี
                                            ิ
            ของพระพุทธองค์ หินก้อนน้นกล้งมาแล้วก็หักเฉออกไปเสียทางอ่น ม
                    l
            398   พระพิชิต ชิตมาโร
   407   408   409   410   411   412   413   414   415   416   417