Page 44 - นิตยสารธัมมวิโมกข์ ปฐมฤกษ์
P. 44
ี
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เราก็ต้องเอาทุกอย่างในโลกท่มีอยู่มาเป็น
ิ
ื
ธรรมะเคร่องปฏิบัต มาเป็นครูสอนเราแล้วก็เพลงมันจะสอนคนได้อย่างไร
แต่ความจริงเพลงสอนคนไม่ได้ คนต้องสอนตัวเอง เอาเพลงเข้ามาเป็นคร ู
ถ้าหากว่าเราหวังจะเอาเพลงเข้ามาเป็นครูด้านสมถภาวนาก็ฟังกันอย่างนี ฟัง
้
ั
ี
เพลงท่ชอบใจหรือไม่ชอบใจก็ตามดี ต้งใจฟังมันจนจบ เอาจิตจับไว้เสมอว่า
เพลงนี้มีลีลาเป็นอย่างไร มีเสียงสูงเสียงตา มีเสียงเบส มีเสียงแหลม แล้วก็
่
�
การดีดสีดีดเป่าทุกจงหวะการตทกครงเราจะไม่ยอมให้เสียงนี้ขาดไปจากห ู
ุ
ี
ั
ั
้
เรา จิตใจเราจะก�าหนดไว้เสมอในขณะท่เขาบรรเลงจะไม่ยอมให้เสียงเพลง
ี
ู
ขาดจากห ใจจะตามรู้เสียงเพลงตลอดเวลา แล้วก็เวลานั้น เราจะไม่ยอมใช้
อารมณ์อ่นเข้ามาคิด ไม่ยอมให้อารมณ์อื่นเข้ามาแทรก จิตจะจับอยู่เฉพาะ
ื
เสียงเพลงอย่างเดียว ถ้าจิตจับอยู่เฉพาะเสียงเพลงอย่างเดียวอย่างนี้จะเป็น
ิ
สต นี่เป็นการรวบรวมก�าลังใจให้จับอยู่กับกระแสของเพลงหรือเสียงของ
เพลง ทีนี้เมื่อก�าจัดเสียงเพลงได้ตลอดจบไม่ขาดสายก็แสดงว่าจิตของเราเป็น
ี
สมาธ มีสติใช้ได้ ทีนี้มาถึงสัมปชัญญะต้องรู้ว่าเสียงเพลงท่ออกมาเป็นเสียง
ิ
หนักหรือเสียงเบา เสียงหุ้มหรือเสียงแหลม ช่วงจังหวะสั้นหรือยาว อย่างนี ้
ี
ั
เป็นสัมปชัญญะ ต้งอารมณ์จิตให้มันตรงอยู่โดยเฉพาะเสียงเพลงตามท่กล่าว
้
มาอย่างนี เป็นสมถภาวนา
แต่นี่สมถภาวนามันก็มีต่อไปอีก เอาเสียงเพลงเป็นครูของเรา ต้องนึก
ี
ึ
ว่าเสียงเพลงมันดังมาได้ตามสถานด้วยกันคือ หน่งเคาะ สองส สามเป่า หรือ
ว่ามันจะมาทางไหนได้อีกก็ตามใจ ส่วนใหญ่ๆ เสียงเพลงจะมีข้นได้ก็ได้จาก
ึ
40