Page 46 - นิตยสารธัมมวิโมกข์ ปฐมฤกษ์
P. 46

ื
                                                         ิ
                        ี
                                             ี
           อาหารหล่อเล้ยงเข้าไว้ อาหารหล่อเล้ยงเป็นสันตต คือการสืบต่อกันเร่อยไป
           เมื่ออยู่ในครรภ์มารดา ได้อาศัยมารดาบริโภคอาหาร อาหารเก่าพอจะหมด
           ไป อาหารใหม่มารดาก็กินเข้าไปใหม่ มันก็ไปหล่อเลี้ยงใหม่ หากว่าอาหาร

                                                          ี
                               ี
           ของมารดาไม่หล่อเล้ยงตลอดไปมันก็ตาย นี้ชีวิตท่ออกจากครรภ์มารดาก็
           เหมือนกัน เป็นคนแล้วแต่ทว่ายังเอาดีอะไรไม่ได้ เพราะอะไร เพราะว่าเป็น


           คนก็เป็นแล้ว ร่างกายอาการ 32 ก็เป็นหมดแล้ว แต่ทว่าถ้าหากจะมีชีวิตอยู่

           ต่อไปก็ต้องใช้อาหารเป็นเคร่องหล่อเลี้ยง กวฬิงการาหาร อาหารคือค�าข้าว
                                      ื
                   ี
                   ่
                                    ี
                                                     ่
                                    ่
                                                        ี
                                                        ่
           อาหารทเรากลืนกินเข้าไปทเป็นอาหารอย่างหนึง ททาให้ร่างกายทรงตว ผสส
                                                                          ั
                                                                             ั
                                                          �
           าหาร อาหารคือผัสสะได้แก่ลมหายใจเข้าออก มโนสัญเจตนาหาร อาหารคือ
           ความปรารถนาของใจ อย่างนี้เป็นต้น เมื่อท้งหลายเหล่านี้หล่อเลี้ยงก�าลังกาย
                                                  ั
           เข้าไว้ อาหารเหล่านี ท่เขาให้กินในระยะแรก และเขาไม่ให้ต่อไป เมื่อก�าลัง
                                ี
                              ้
           ของอาหารเก่าหมดไป ร่างกายเราก็ตาย นี่ไปนั่งเปรียบเทียบกับเสียงดนตร   ี
           มันก็มีสภาพเหมือนกัน เสียงดนตรีท่เขาเคาะ แล้วไม่เคาะใหม่ เสียงก็ขาด
                                             ี
                                 ี
           ไป เหมือนกับร่างกายท่ขาดอาหาร อาหารเก่าหมดไปอาหารใหม่ไม่มาเราก็
                 ี
           ตาย ท่เอาเสียงดนตรีเป็นครูในการเจริญสมถภาวนา แล้วก็ฟังเสียงดนตรีกัน
                                                                   ี
                                ี
           ต่อไปว่า มันมีสภาพเท่ยงไหม เสียงดนตรีนี่มันก็มีสภาพไม่เท่ยงเป็นอนิจจัง
                                  ี
                                                                        ิ
           เหมือนกัน เพราะเพลงท่เราต้องการฟัง เสียงก�าลังไพเราะเพราะพร้ง ดีไม่ดี
           บางจังหวะ บางตอนเพลงนั้นก็อาจเป็นท่ไม่ชอบใจของเรา บางทีเพลงเดียวกัน
                                               ี
                                                                      ้
                                                                      ั
           คนบรรเลงคนเดียวกัน ดีดสีตเป่าหรอเคาะให้เราชอบใจได้บางครงบางคราว
                                      ี
                                            ื
                                             ั
           บางคราวเราก็ไม่ชอบใจในลีลานั้น ท้งนี้เพราะอะไร เพราะเป็นอนิจจังของ
                                                        ี
                                           ี
           เสียงเพลง มันไม่เท่ยง หรือว่าคนท่บรรเลงนี้ไม่เท่ยง หรือว่าคนฟังก็เป็นหูท ่ ี
                             ี
                                             42
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51