Page 47 - นิตยสารธัมมวิโมกข์ ปฐมฤกษ์
P. 47
ี
ี
ี
ไม่เท่ยง จิตคนฟังก็เป็นจิตท่ไม่เท่ยง เพราะอะไรจึงว่าอย่างนั้น คนบรรเลง
คออาจจะอ่อนไป ความไหวของมืออาจไม่เสมอกัน ความไพเราะเพราะพร้ง
ิ
ี
ู
ั
่
ั
มันก็ขาดไป ย่อหย่อนลงไป เครองดนตรทเราใช้มันก็ร้จกเก่า มันก็ร้จกเสอม
ู
ี
ื
่
ื
่
ู
ั
้
ี
ุ
ั
้
มันก็ร้จกโทรม ทนีอารมณ์ของบคคลฟังก็ไม่แน่นัก วนนีอาจจะชอบฟังเสียง
ี
เพลงเสียงหวานๆ โหยหวนไพเราะ บางขณะอาจจะต้องการฟังเพลงท่เร้าใจ
่
ึ
�
ั
ทาใจให้คึกคัก คึกโครม ตงตง โครมคราม นีเป็นอันว่าเสียงเพลงมันก็ไม่
ี
ี
เท่ยง คนบรรเลงมันก็ไม่เท่ยง คนฟังมันก็ไม่เท่ยง เมื่อความไม่เท่ยงเกิดข้น
ึ
ี
ี
ึ
มันเป็นสุขหรือมันเป็นทุกข์ อารมณ์ท่ไม่ชอบใจเกิดข้น มันก็เป็นอารมณ์ของ
ี
ี
�
�
�
ความทุกข์ ค�าว่าทุกข์ แปลว่าจาจะต้องทน ของท่เราจาจะต้องจาทนฟัง จาจะ
�
จ้องทนทา จาจะต้องทนคิด นี่มันเป็นอาการของความทุกข์ แล้วทาไมมันถึง
�
�
�
ทุกข์ล่ะ ก็เพราะว่ามันไม่เท่ยง มันจึงทุกข์ เพลงเป็นคร จาเสียงไว้ว่าเพลง
ี
ู
�
ู
ี
เป็นคร เรามีความทุกข์ เพราะเสียงเพลงมันไม่เท่ยง แต่ความจริงเสียงเพลง
ี
ี
มันเท่ยง แต่ว่าคนดีดสีตีเป่ามันไม่เท่ยง หรือบางทีคนดีดสีตีเป่าก�าลังเขายัง
ื
ี
ต ลีลาปกต แต่เคร่องดนตรีมันไม่เท่ยง บางทีเคร่องดนตรีมันก็ยังตีอยู่ การ
ิ
ื
ี
ดีดสีตีเป่าก็ยังคงตัว คนบรรเลงก็ยังมีก�าลังร่างกาย มีความไหวพอสมควร
ี
ตามเดิม แต่ว่าหูคนฟัง ใจคนฟัง มันไม่เท่ยง ไม่เท่ยงเพราะอะไร เคยชอบ
ี
เพลงนี คราวนี้ไม่ชอบเสียแล้ว ต้องการเพลงโน้น
้
้
แล้วก็ไปนั่งนึกดูว่า ไอ้เพลงท้งหลายนี หรือว่าการดีดสีตีเป่าของ
ั
แต่ละบุคคลทรงกันอยู่ตลอดกาลตลอดสมัยไหม จะทรงได้อย่างไร นักดนตร ี
ั
ประจาโลกต้งแต่โลกเกิดมา นักดนตรีก็ติดมากับโลกเสมอ นักดนตรีตายไป
�
แล้วนับไม่ถ้วน นี่มันอนัตตาเสียแล้ว บังคับไม่ได้
43