Page 48 - นิตยสารธัมมวิโมกข์ ปฐมฤกษ์
P. 48
ื
ี
ประการท่สอง เคร่องดนตรีส�าหรับบรรเลงต้งแต่ต้งโลกมาถึงปัจจุบัน
ั
ั
ื
้
ี
เคร่องดนตรีท่พังไป สลายไปนี นับไม่ถ้วน นี่มันเข้าสภาพอนัตตา เจ้าของจะ
ปรับปรุง จะซ่อมแซมเป็นประการใดก็ตามท เคร่องดนตรีมันไม่ทรงตัว และ
ี
ื
ก็คนฟังเสียงดนตรีล่ะ ฟังกี่คน ฟังเท่าไรตายหมดเท่านั้น มันก็เป็นอนัตตา
ี
นี่การฟังเสียงดนตร ถ้าฟังเป็น เราก็เป็นพระอรหันต์ได้ ถ้าจะถามว่า
คนพูดน่ะ เคยใช้เสียงดนตรีประกอบการปฏิบัติสมถกรรมฐาน หรือวิปัสสนา
กรรมฐานหรือเปล่า
ความจริงพระพุทธเจ้าท่านทรงห้ามว่า ถ้าเทศน์ อย่าอ้างตัวเองเป็น
ส�าคัญ แต่ว่าเร่องนี้เราพูดกันตามหลักของความเป็นจริง ก็ต้องขอบอกว่าใช้
ื
ิ
ี
ี
่
มามาก เพราะยามปกตเป็นคนชอบเล่นดนตร แต่ว่าเป็นดนตรไทยเดิม เรอง
ื
ี
ดนตรีนี เสียงเพลงใดก็ตาม ใครเขาจะบรรเลงกันท่ไหนเป็นนักขโมยเพลง
่
เก่าท่สุด อย่างเพลงพ้นๆ ธรรมดาๆ ฟังจบเดียวก็เอาไปกินเลย นี่นักขโมย
ี
ื
เพลง เพลงตับยาวๆ เช่น ตับนาคบาศ พรหมมาศ นางนาค และนางลอยอย่าง
นี ถ้าใครบรรเลงให้ฟังเพียง 2 คร้ง เอาไปกินหมด ท้งเนื้อเพลงและบทร้อง
ั
ั
้
เอาไม่เหลือ และดีไม่ดีก็ชอบแต่งต่อเติม วางแบบวางแผนคิดเองเสมอ ว่าอี
ตอนนี้คนเขาทาแบบนี ตอนนั้นคนเขาทาแบบนั้น มันดีไม่พอ หรือบางทีมัน
�
้
�
ก็ดีเหมือนกัน เวลาประชันกัน ถ้ามันเหมือนเขาเราก็เอาชนะเขาไม่ได้ แล้วก็
ิ
�
ต่อโน่น เติมนี่เสียนิดหน่อย ของเก่าเขาทาไว้ดีแล้ว คนเร่มต้นใหม่เหนื่อยแย่
แต่เรามาแก้ไข ดัดแปลง เหนื่อยน้อยสบาย เราก็มีอารมณ์สบาย ในเมื่อเรามี
อารมณ์สบาย เพราะอะไรเพราะเราเอาของเขามาใช้
44