Page 45 - นิตยสารธัมมวิโมกข์ ปฐมฤกษ์
P. 45
ี
ื
เสียงเคาะ และก็เสียดสี และก็เป่าด้วยลม เสียงเพลงท่ดังเจ้อยแจ้วมาไม่ขาด
ั
ั
สาย เราก็ต้องคิดว่านี่เขาเคาะทีเดียว เป่าสีคร้งเดียว เขาเป่าคร้งเดียวหรือ
ั
อย่างไร แต่เนื้อแท้จริงๆ การเคาะคร้งเดียว เสียดสีคร้งเดียว เป่าคร้งเดียว
ั
ั
ั
ั
เคาะคร้งเดียว เป่าแล้วก็หายไป สีคร้งหนึ่งเสียงก็หายไป เคาะทีหนึ่งเสียง
ี
ก็หายไป เสียงท่มันดังอยู่นานก็เพราะว่าเขาเคาะไม่ขาดมือ เคาะแล้วยกมา
แล้วก็เคาะต่อ สีไปสีมา ไม่ขาดสาย เป่าเสมอไปไม่หยุดยั้ง เสียงเพลงจึงได้
ปรารถนาตลอดกาล ตลอดสมัยจนกว่าจะจบเพลง
ทีนี้เราก็เอาเสียงเพลงน�ามาคิด นี่ถ้าสมมุติว่าเขาไม่เป่าต่อไป ไม่สี
ต่อไป ไม่เคาะต่อไป เสียงเพลงจะมีต่อไปได้ไหม เราก็จะเห็นชัดว่ามันมีไม่
ได้ ทาไมถึงว่ามีไม่ได้ ก็เพราะว่ามันขาดสายไปเสียแล้ว เสียงเก่าหายไปเสียง
�
ใหม่ไม่ปรากฏ มันก็หมดกัน เสียงมันก็ไม่มีเสียง
ตอนนี้เราก็มาเห็นกับร่างกายของเรา ท่พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า “เมื่อ
ี
มีการเกิดขึ้นแล้ว ก็มีความเสื่อมไป มีการสลายตัวไปในท่สุด” ตอนนี้เรามาพูด
ี
ี
ถึงด้านสมถภาวนาว่าเกิดแล้วก็ตาย การเกิดจากครรภ์มารดาท่อยู่ในครรภ์
มารดา เมื่อวิญญาณเข้ามาปฏิสนธิใหม่ หรือว่าจิตเข้ามาปฏิสนธิใหม่ๆ มัน
ิ
ี
ก็ต้องอาศัยกายท่ยังไม่เป็นกาย ไม่เป็นรูปเป็นร่าง เลือดเร่มจับก้อนน้อยๆ
ี
จิตเร่มเข้ามาอาศัย ต่อมาเมื่อร่างกายจะปรากฏจิตจะมีท่อาศัยอยู่ตลอดกาล
ิ
ี
ตลอดสมัย ก็เพราะท่มารดาบริโภคเข้าไปหล่อเลี้ยงร่างกายจากเล็กมาถึงใหญ่
ี
ื
ั
จนกระท่งเกิดตุ่มเป็นสาขาขึ้นมา แล้วก็มีอาการ 32 ครบถ้วน ในท่สุดก็เคล่อน
ออกมาจากครรภ์มารดา มีร่างกายสมบูรณ์ ท่เป็นได้อย่างนี้เพราะอะไร เพราะ
ี
41