Page 34 - คัมภีร์ฉันทศษศตร์pdf
P. 34
แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ในวงการสาธารณสุขไทย
ธีรศักดิ์ วัฒนถาวรวงศ์ กล่าวว่า กองการประกอบโรคศิลปะ กระทรวงสาธารณสุข โดย
รัฐมนตรีว่า การกระทรวงสาธารณสุขประกาศใช้เป็นแบบอย่างการศึกษา เผยแพร่ ความรู้ แก่ผู้สนใจทั่วไป
โดยระบุตำรายาที่รับรองไว้เมื่อ พ.ศ.2544 มี 4 รายการ
1. ตำราเวชศึกษาของพระยาพิศณุประสาทเวช
2. ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ฉบับหลวง เล่ม 1 และ 2
3. ตำราคัมภีร์แพทย์แผนโบราณของขุนโสภิตบรรณลักษณ์ เล่ม 1 เล่ม 2 เล่ม 3
4. ตำราแพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ เล่ม 1 เล่ม 2 เล่ม 3
เมื่อปี พ.ศ.2494 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชดำเนินวัดพระเชตุพน
วิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) ในครั้งนั้นได้ทรงปรารภว่า วัดพระเชตุพนฯ เป็นแหล่งรวบรวมตำราแพทย์แผนไทย
อยู่แล้ว ทำไมไม่จัดให้มีโรงเรียนสอนการแพทย์แผนไทย ในวิชาเวชกรรม ผดุงครรภ์ หัตถเวชและเภสัชกรรม
ทำให้คณะกรรมการวัดพระเชตุพน ฯ พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการแพทย์แผนไทย ที่หลงเหลืออยู่ได้
สนองพระราชปรารภ และจัดทำหลักสูตรโรงเรียนแพทย์แผนไทยโบราณขึ้นในนาม “โรงเรียนแพทย์
แผนโบราณแห่งประเทศไทย” และเปิดสอนเป็นครั้งแรกที่วัดพระเชตุพน ฯ โดยแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตร คือ
เวชกรรม เภสัชกรรมและหัตถเวช ต่อมาได้มีการขยายตัวไปทั่วประเทศไทยในนามของสมาคมแพทย์แผน
โบราณและในปี พ.ศ.2525 ได้เปิดสอนวิชาการแพทย์แผนไทยในอายุรเวทวิทยาลัย (ชีวกโกมารภัจจ์)
ที่วัดบวรนิเวศน์วรวิหาร ได้นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เข้าไปประยุกต์ใช้ ผู้มีบทบาทสำคัญได้แก่
ศาสตราจารย์ น.พ. อวย เกตุสิงห์ และคณะ ได้จัดตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริม การแพทย์แผนไทย (เดิม)
ภายใต้การสนับสนุนของกระทรวงสาธารณสุขด้านนโยบายและงบประมาณ มีการผลิตบุคคลากรเรียก
แพทย์แผนไทยประยุกต์ นับเป็นประวัติศาสตร์สำคัญด้วยการนำการแพทย์แผนไทย เข้าสู่ระบบ จนกระทั่งปี
พ.ศ.2536 ได้มีการจัดตั้ง สถาบันการ แพทย์แผนไทยขึ้นมีพระราชบัญญัติคุ้มครองส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์
แผนไทยในปี พ.ศ.2543 และลงราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 118 2ก. ลงวันที่ 10 มกราคม 2544 เกิดหน่วยงาน
อย่างเป็นทางการในระดับสูงกว่ากองซึ่งสถาบันการแพทย์แผนไทย สังกัด สำนักงานปลัดกระทรวง นับเป็น
ประวัติศาสตร์การต่อสู้ที่ยาวนานในการนำการแพทย์แผนไทย เข้าสู่การยอมรับอย่างเป็นทางการ
ผู้ที่มีความรู้เรื่องการแพทย์แผนไทย ในปัจจุบันที่สามารถรักษาโรคได้ แต่ไม่มีใบประกอบโรคศิลปะ
ยังมีมากมาย เรียกว่าหมอพื้นบ้านและหมอไทยที่ผ่านการอบรม และมีใบประกอบโรคศิลปะมีประมาณกว่า
35,000 คน ก็นับว่ามีกำลังหมอไทย ยาไทย เป็นจำนวนมาก หากมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบมีศูนย์กลาง
คอยปรับปรุงและพฒนาองค์ความรู้และต่อยอดภูมิปัญญาแล้วการแพทย์แผนไทย จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
ั
และอนามัยของประชาชนอย่างยิ่ง ทั้งร่างกายและจิตใจ อันเนื่องด้วย ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของเรานั้น
มีการบูรณาการมาจากการแพทย์พื้นบ้าน และอิทธิพลของพระพุทธศาสนา จึงสามารถเข้าถึงภาวะจิตใจ และ
ร่างกายของผู้มาขอรับการบำบัดรักษาได้ นี่คือ เสน่ห์ที่มีคุณค่ายิ่ง ซึ่งเราควรภาคภูมิใจ ในภูมิปัญญาการแพทย์
แผนไทยที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะของตน และองค์ความรู้ทางการแพทย์
แผนไทย ทั้งหมดก็ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์แพทยศาสตร์สงเคราะห์ เป็นตำราแพทย์แผนไทยฉบับหลวง ซึ่งถือได้ว่า
หน้า 32