Page 17 - แนวการจัดกิจกรรม Active Learning History Thai
P. 17
๑. การคิดประเด็นโครงงานและการเลือกหัวข้อโครงงาน
ั
�
ี
ื
ี
ข้นตอนน้เป็นการคิดหาและเลือกหัวข้อเร่องท่จะทาโครงงาน โดยผู้เรียนต้อง
ตั้งต้นด้วยค�าถามที่ว่าจะศึกษาเรื่องใด เพราะเหตุใด ท�าไมต้องศึกษาเรื่องดังกล่าว เรื่องดังกล่าว
มีความส�าคัญอย่างไรต่อผู้เรียน ต่อชุมชน หรือต่อประเทศ สิ่งที่จะน�ามาก�าหนดเป็นหัวข้อเรื่อง
โครงงาน อาจได้มาจากปัญหา ค�าถาม หรือความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องต่าง ๆ ของผู้เรียนเอง
ี
ี
ึ
ซ่งเป็นผลจากการท่ผู้เรียนได้อ่านหนังสือต่าง ๆ มีการแลกเปล่ยนความเห็นในกลุ่มผู้เรียนเอง
ตามแบบประชาธิปไตย หรือจากการท่ได้ไปดูงานทัศนศึกษานอกสถานท่ หรือสังเกตจาก
ี
ี
ปรากฏการณ์ต่าง ๆ รอบตัว หัวข้อของโครงงานควรเป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจง และชัดเจน
ี
ั
ื
โดยท่วไปการสืบค้นเร่องราวต่าง ๆ ควรเป็นเร่องท่ใกล้ตัว ผู้เรียนมีความสนใจ
ื
อาจเร่มด้วยความอยากรู้เร่องของตนเองและครอบครัว เช่น ศึกษาเร่องประวัติความเป็นมา
ื
ิ
ื
ของครอบครัวตนเอง การประกอบอาชีพของบุคคลในครอบครัว เป็นต้น ซ่งแหล่งสืบค้นข้อมูลหลักฐาน
ึ
ก็จะอยู่ใกล้ตัวผู้เรียน เช่น รูปภาพ ข้อมูลจากการซักถามผู้ปกครอง ญาติสนิท เรื่องราวในชุมชน
ิ
หรือท้องถ่นก็สามารถถูกสืบค้นด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์เช่นกัน อาทิ เร่องประเพณ ี
ื
วัฒนธรรม การละเล่นในชุมชน ความเป็นมาของชื่อหมู่บ้าน ถนน ต�าบล อ�าเภอ หรือสถานที่ส�าคัญ
ิ
แหล่งสืบค้นข้อมูลหลักฐานอาจเป็นส่งใกล้ตัว เช่น ลักษณะภูมิประเทศ การสอบถาม
ื
ั
ุ
่
ู
ู
ิ
ั
ิ
ิ
ู
ี
ภมปัญญาท้องถนหรอผ้ร้ในชมชน รวมท้งแหล่งความรู้ในชุมชนหรือในท้องถ่น ท้งน้ การเรียนร ู้
ี
ี
่
ื
่
ิ
่
ุ
ี
้
ื
ู
ึ
่
ิ
ประวตศาสตร์ท้องถนจะมความหมายและมคณค่ายงขน เมอผ้เรยนสามารถเชอมโยง
ิ
ั
ิ
ประวัติศาสตร์ท้องถ่นกับประวัติศาสตร์ชาต ิ
๒. การศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
การดาเนินงานตามข้นตอนน้ เป็นการศึกษาเอกสารท่เก่ยวข้องต่าง ๆ รวมถึง
ี
ี
ี
�
ั
การขอค�าปรึกษาหรือข้อมูลรายละเอียดอื่น ๆ จากปราชญ์ชาวบ้าน ผู้อาวุโสในท้องถิ่น พระสงฆ์
ี
�
ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เก่ยวข้องทุกระดับ รวมท้งการสารวจวัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ การดาเนินงาน
ั
�
ั
�
ี
ื
ี
ี
ตามข้นตอนน้จะทาให้เกิดความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ ของเน้อหาท่เก่ยวข้อง
เพ่มมากข้น รวมท้งทาให้เห็นถึงขอบข่ายของภาระงานท่จะต้องดาเนินการ ผลท่จะเกิด
ี
�
ี
ิ
ั
ึ
�
จากการดาเนินงาน ช่วยทาให้ได้แนวคิดในการกาหนดขอบข่าย หรือเค้าโครงของเร่อง
�
�
ื
�
ที่จะศึกษาชัดเจนว่าจะท�าอะไร ท�าไมต้องท�า ต้องการให้เกิดอะไร ท�าอย่างไร ใช้ทรัพยากรอะไร
ท�ากับใคร เสนอผลงานอย่างไร
๓. การเขียนเค้าโครงของโครงงาน
เป็นการสร้างแผนผังความคิด เป็นการนาเอาภาพของงานและภาพความสาเร็จ
�
�
�
ั
ื
ี
ของโครงงานท่วิเคราะห์ไว้มาจัดทารายละเอียด เพ่อแสดงแนวคิด แผนงานและข้นตอน
ื
ี
�
การทาโครงงาน มีการระดมสมอง ปรึกษาหารือ เพ่อให้ผู้ร่วมงานและผู้เก่ยวข้องทุกคนได้มองเห็น
ิ
ภาระงานต้งแต่เร่มต้นจนเสร็จส้น รวมท้งได้ทราบถึงบทบาทและระยะเวลาในการดาเนินงาน
ั
ั
�
ิ
เมื่อเกิดความชัดเจนแล้ว จึงน�ามาก�าหนดเขียนเป็นเค้าโครงของโครงงาน
4 แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ที่เสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ :
ประวัติศาสตร์ชาติไทย