Page 164 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 164

มีกำแพงเวียง ป้อมปราการ หอรบ ประตูชัย ราวในพุทธศตวรรษที่ ๒๔ นักปราชญ์ชาวเมืองลับแล ผู้สนใจ

               ประวัติศาสตร์เมืองลับแล ขุดตรงที่ข้างคูค้นพบซากศพคนร่างใหญ่สูงทรงเครื่องต้น เครื่องทรงของ
               พระมหากษัตริย์โบราณ เปิดดินออกแล้วเห็นแจ่มแจ้งชัด ประชาชนหลั่งไหลกันมาดู เมื่อเอามือเข้าไปจับก็เหลว


               เละเป็นดินไปหมด




               เรื่องที่ ๘  เมืองลับแลในยุคต้นขึ้นตรงต่ออาณาจักรโยนก

                                                                                                      ่
                       การปกครองเมืองลับแลในยุคต้นนั้น แบ่งหมู่บ้านออกเป็นหลักแต่ละหลักมีหัวหน้าปกครองหนึงคน
                                                                                                ้
               เรียกตามตำแหน่งว่า เจ้าหลัก ขึ้นกับ เจ้าแคว้น เจ้าแคว้นขึ้นกับเจ้าเมือง อำนาจสิทธิ์ขาดอยู่กับเจาเมืองแตผ ู้
                                                                                                        ่
               เดียว เทียบได้กับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมืองลับแลขึ้นตรงต่ออาณาจักรโยนก  ตำนานทางภาคพายัพ

               ได้พรรณนาไว้ว่าอาณาจักรโยนกมีเวียงอยู่ ๔ เวียง คือ
                       ๑.  เวียงโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย

                       ๒.  เวียงชัยนารายณ์ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
                       ๓.  เวียงชัยปราการ ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

                       ๔.  เวียงสี่ตวง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

                                                      ี
                                                                                          ็
               ซึ่งมีพระนครนาคพันธ์สิงหนวัติโยนกชัยบุรีศรีเชยงแสน เป็นนครหลวง พระเจ้าสิงหนวัติ เปนปฐมกษัตริย์แห่ง
               ราชวงศ์สิงหนวัติ มีพระมหากษัตริย์สืบราชวงศ์ ติดต่อกันมาถึง ๔๖ รัชกาล
                       อนึ่งเจ้าคำลือ และเจ้าคำแสน บิดาผู้ให้กำเนิดเมืองลับแล ซึ่งมีเชื้อสัญชาติสืบต่อมาจากตระกูลกษัตริย์

               เวียงโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน ย่อมมีความสำนึกรักชาติ รักตระกูลเป็นพื้นฐาน เมืองลับแลได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นใน
                                                                                                       ี
                                                                                         ิ
                           ้
               รัชสมัยพระเจาเรืองธิราช รัชกาลที่ ๑๒ เป็นพระมหากษัตริย์ ครองนครนาคพันธ์สิงหนวัตโยนกชยบุรีศรีเชยง
                                                                                               ั
               แสน ได้ส่งราชโอรสมาครองเมืองลับแล เป็นส่วนหนึ่งในอาณาเขตทิศใต้ของอาณาจักรโยนก นับเป็นยุคต้นของ
               เมืองลับแลซึ่งติดต่อกับอาณาจักรละโว้ อนิจจังความไม่เที่ยงต่อมาอาณาจักรโยนกก็เปลี่ยนเป็นอาณาจกรลาน
                                                                                                    ั
               นานไทย



               เรื่องที่ ๙  ปฐมเจดีย์แห่งเมืองลับแล


                       ชาวเมืองลับแลนับถือศาสนาพุทธ เป็นมรดกที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษจึงไม่หวั่นไหวเอนเอียงไปถือ

               ศาสนาอื่นอย่างเด็ดขาด ประมาณ พ.ศ. ๕๑๙ พระเจ้าฟ้าฮ่ำราชกุมาร เสด็จขึ้นไปกราบถวายบังคมขอ
                                              ุ
                                                           ้
               พระราชทานแบ่งพระบรมสารีริกธาตของพระพุทธเจา จากพระเจ้าพนธิราช พระเชษฐา องค์พระมหากษัตริย์
               พระนครนาคพันธ์สิงหนวัติโยนกชัยบุรีศรีเชียงแสน พระเชษฐาก็ได้พระราชทานแบ่งพระบรมสารีริกธาตุจาก

                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๑๔
   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169