Page 166 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 166

พยายามติดตามไปในซอกห้วยช่องเขาก็พบขี้ช้างเลี่ยลาดอยู่ในห้วยนั้น ก็เชื่อแน่ว่าช้างหลบหนีมาทางนี้จริง

               ชาวบ้านจึงเรียกชื่อว่า ห้วยขี้ช้าง มาถึงปัจจุบันนี้ และก็เป็นที่น่าแปลกประหลาดมาก เพราะก้อนหินในห้วยนั้น
               ก็เป็นก้อนเหมือนกับขี้ช้างทั้งนั้น ถ้าผู้ใดสนใจอยากรู้อยากเห็นก็ขอเชิญไปพิสูจน์ดูได้ ควาญช้างก็พยายาม

               ติดตามช้าง ต่อไปก็ได้พบพระภิกษุรูปหนึ่งเดินสวนทางกัน ควาญช้างหลวงก็ถามพระภิกษุหนุ่มรูปนั้นเป็น

                                                                                                   ิ
               ปริศนาว่า มัดตั๋วหันมัดตี๋นข้าเก่า พระภิกษุท่านก็ตอบว่า หันอยู่ที่ต้นไม้ซ่อนดอก ฮื้อไปเอาเร็ว ๆ ถ้าคดบ่ออก
               ต้นไม้ซ่อนดอกจะสาปฮื้อเป็นหิน พวกควาญช้างก็รีบเดินทางไป ก็คิดปัญหาไปก็ไม่มีผู้ใดจะเข้าใจเสียเลย

               ติดตามช้างทั้งกลางวันและกลางคืน จนถึงวันรุ่งขึ้นก็ไปพบช้าง กลับกลายเป็นก้อนหินมูบอยู่ที่ข้างต้นมะเดื่อ

               ชุมพร พวกควาญช้างหลวงก็ร้องไห้โฮ แล้วก็ตรวจดูช้างตั้งแต่หัวถึงหางก็จำได้ ว่าเป็นช้างพระที่นั่งของเจ้าเมือง
               จริง ๆ ควาญช้างก็นำเรื่องแปลกประหลาดไปกราบทูลต่อ พระเจ้าฟ้าฮ่ำราชกุมาร เจ้าเมืองก็เสด็จไป

               ทอดพระเนตรแล้วก็พระราชทานอภัยโทษ

                       ยุคต่อมาประชากรก็มากขึ้น แถวหัวดงก็เริ่มตั้งบ้านเรือนอยู่ประปลายตามซอกห้วยเนินเขาก็เริ่มเป็นไร่
                                                                                                      ้
               เป็นสวนขึ้น มีเรื่องเล่าว่าพวกเลี้ยงควายตอนควายไปเลี้ยงที่ห้วยผามูบ ไอ้หนุ่มเลี้ยงควายคนหนึ่งฝันว่าชางมู
                                                  ้
                                     ื
               บเชือกนั้นบอกว่า ถ้าเอาเลอดคนไปให้กิน ก็จะให้ทองคำ ๆ มีอยู่พื้นท้องช้างนี้มาก ไอ้หนุ่มคนนั้นก็มีจิตละโมบ
               โลภมากตามวิสัยของปุถุชน
                       จึงออกอุบายเอาผิวไม้เฮี้ย มาให้พวกเด็กเลี้ยงควายด้วยกัน เหลาเพื่อเป็นกลอุบายจะให้ไม้เฮี้ยบาดมือ

               เด็กบอกว่าจะสานตะกร้าใส่หน่อไม้ให้หาบกลับไปบ้าน พวกเด็ก ๆ ก็เหลาไม้เฮี้ย มีคนหนึ่งเคราะห์ร้ายชะตา

               ขาด ผิวไม้เฮี้ยก็บาดมือเลือดไหลออก ไอ้หนุ่มคนนั้นก็นึกว่าคราวนี้คงมีโชคดีแน่แล้ว มันก็เอาเลือดเด็กไปทา
               ปากช้างมูบ แล้วก็เชิญให้กินเลือดและก็พูดอ้อนวอนขอก้อนทองคำ ช้างมูบก็ลุกยืนขึ้น ส่วนเด็กที่เลือดไหลออก

               นั้นก็ล้มตายคาที่เลย

                                                                                     ้
                                                 ้
                                                                                  ้
                                                                                               ุ
                       ฝ่ายไอ้หนุ่มได้เห็นทองคำที่พื้นทองช้างมูบก็ดีใจรีบเก็บเอาทองคำที่พื้นทองชางมูบบรรจใสถุงห่อข้าว
                                                                                                 ่
               และตะกร้า พอเต็มหาบแล้วก็รีบกลับบ้านเดินทางถึงบ้านก็พอจะก้าวขึ้นบันได ไอ้หนุ่มคนนั้นก็ล้มขาดใจตาย
               ได้ในบทพุทธภาษิต ว่า ทุกฺขโต ทุกฺขฐานํ แปลว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกนั้นถึงตัว



               เรื่องที่ ๑๑  ผีเจ้าเข้าทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บ



                       ชาวเมืองลับแลเคารพนับถือบูชาดวงวิญญาณของพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว เป็นนิสย
                                                                                                        ั
               ติดสืบมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ถ้าพ่อแม่ถึงแก่กรรมไปแล้วจะต้องเชิญดวงวิญญาณขึ้นไปอยู่บนบ้าน ทำหิ้งให้อยู่ปก
               ปักรักษาคุ้มครองลูกหลาน (แต่ไม่นิยมเก็บอัฐิ) เมื่อถึงวันสงกรานต์ก็จัดเอาน้ำอบน้ำหอมขึ้นมาคาราวะตรงทหิ้ง
                                                                                                       ี่
                                                                                                        ็
                                                                                                     ุ
                                       ็
               บนบ้านนั้น บางทีลูกหลานเจบป่วยก็ห้วงผ้า ถามทายไปถูกผีพ่อ ผีแม่ ผีปู่ ผีย่า ผีพ่อขา ผแม่ขา จะเอาตงเลก
                                                                                         ี
               ตุงใหญ่ หรือจะเอาทองเท่าลูกฟักและจะกินข้าวสาปอก (สังฆทาน) ลูกหลานก็จัดทำบุญอุทิศส่งไปให้
                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๑๖
   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171