Page 418 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 418
ั
ี
โพธิสมภารพร้อมกับหมื่นด้ง เพียงแต่จะขอไปจัดหาบเสียก่อน หมื่นด้งสั่งห้ามไว้และว่าหากยังขัดขืนก็จกฆ่าเสย
และบอกให้พระยาเชลียงสั่งภรรยาตนนั้นหาบออกมา
ความช่วงนี้กินเหลี่ยมกินเชิงกันอยู่ระหว่างทั้งสองท่านและรู้ทันกันโดยที่หมื่นด้งนครมีกำลังพลเป็น
่
ู่
ั้
ั
เครื่องข่มขวัญให้พระญาเชลียงต้องยอมสยบ คือเรื่องชนไก่นั้นไม่เป็นที่พูดถึงอีกต่อไป เพราะทงคตางก็รู้ทนกัน
่
ว่าเป็นเพียงคำอ้างที่จะหลอกให้อีกฝ่ายหนึ่งไปสู่ความตาย การที่ให้พระญาเชลียงนั่งอยู่โดยที่ฝ่ายของหมืนด้ง
นครยืนล้อมนั้นย่อมเป็นการควบคุมให้อยู่ในอำนาจ หากพระญาเชลียงลุกขึ้นก็หมายความว่าขัดขืนหรือเรียกหา
คมดาบ แต่พระญาเชลียงก็ยังมีเล่ห์ที่ว่าจะขออนุญาตเข้าไปในห้องนอนเพื่อ “ดาหาบ” คือจัดเตรียมข้าวของ
่
ุ
้
ี่
ั
่
เครื่องใช้ตางๆ ที่จำเป็นต้องนำไปเชียงใหม่ด้วยนั้นใสลงไปในกระบุงคู่และจดให้มีขนาดและน้ำหนักทไดดลกัน
เหมาะสมที่จะหาบและเดินเท้าไปได้ หมื่นด้งก็รู้เท่าทันว่าหากพระญาเชลียงเข้าไปในห้องนอนได้นั้นก็
ี
ั
ั
ั
หมายความว่าจะหาโอกาสหนีมากกว่า ดงนั้นการส่งให้พระญาเชลยงนั่งอยู่และให้ภรรยาของพระยาเชลียงจด
ั
แต่งหาบออกมานั้น ก็ย่อมเป็นการบังคบให้พระญาเชลยงสั่งเมียให้ตามไปด้วย เพราะไม่แน่ว่าหากนางพระญา
ี
เมืองนั้นยังคงอยู่แล้วจะเกิดภัยขึ้นระคายพระยุคลบาทหรือไม่ และครั้งนั้นเมืองเชลยงย่อมจะเกิดไฟไหม้อย่าง
ี
กว้างขวางเพราะ “เหล็กไฟกับมุด” ที่เตรียมไว้แล้วนั้น พระญาเชลียงก็ให้ป่าวประกาศแก่ชาวเมืองว่าตนจะไป
ิ้
อยู่เชียงใหม่ ใครอยากไปด้วยก็ได้หรือไม่อยากไปก็อยู่เมืองเชลียงต่อไปก็ได้ จากนั้นพระญาเชลียงก็สนสภาพเจา
้
เมืองเชลียง เมืองสำคัญในเขตแดนแคว้นสุโขทัยเดิมกลายมาเป็นเชลยศึกในเมืองเชียงใหม่ก็เพราะเจตนาที่คิด
1
คดและอยากจะฆ่าคนโดยที่คนนั้นก็รู้เท่าทันตนนั่นเอง
ั
เมื่อนั้น พระญาติโลกราชะ เจ้าเหนือหัวเมืองเชียงใหม่ ก็แต่งตั้งให้หมื่นด้งเป็นเจ้าเมืองเชลียงต่อไป ดง
ว่าในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ว่า “พระเปนเจ้าค็หื้อหมื่นด้งกินเมืองชะเลียงปลีนั้น หมื่นด้งได้กินเมืองสอง
่
2
เมือง คือเมืองนคอรกับเมืองชะเลียง วันนั้นแล” หมื่นด้งจึงย้ายที่พำนักจากเมืองด้งมาอยู่ในเมืองเชลียง แตก็
ให้ไพร่พลของตนอยู่ในเมืองดงต่อไป เมื่อพระญาเชลียงไปถึงเชียงใหม่ พระญาติโลกราชก็โปรดให้นำตัวไปยัง
้
เมืองหางและเสียชีวิตในเมืองนั้น ส่วนในพระราชพงศาวดาร ฉบับหลวงประเสริฐฯ ศักราชนั้นก็ไม่ตรงกับทาง
3
เชียงใหม่ แต่คาดว่าน่าจะเป็นเหตุการณ์เดียวกัน มีว่า “ศักราช ๘๒๒ มะโรงศก (พ.ศ. ๒๐๐๓) ...ครั้งนั้น
พระญาเชลียงคิดขบถ พาเอาครัวทั้งปวงไปออกแต่มหาราช”
1 อุดม รุ่งเรืองศรี และเกริก อัครชิโนเรศ, ๒๕๕๒, หน้า ๑๒๓ – ๑๒๔.
2 ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๘, หน้า ๗๒.
3 ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษกเล่ม ๑, ๒๕๔๒, หน้า ๒๑๕ - ๒๑๖.
เจ้าหมื่นด้งนคร : ผีอารักษ์ และมายาคติทางประวัติศาสตร์
หน้า ๓๔