Page 102 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13
P. 102
98
04-05 Poster Presentation
ชื่อเรื่อง : Early ART in New HIV Infection
ผู้นำเสนอ : ลินดา ศรจัน และรัตนมณี ดุริยศาสตร์ ตำแหน่ง : พยาบาลวิชาชีพ
E-mail : wangmukklang@gmail.com เบอร์โทรศัพท์ที่ทำงาน : -
เบอร์โทรศัพท์มือถือ : 08 6994 2463 ID line : -
หน่วยงาน : โรงพยาบาลด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
ความเป็นมาและความสำคัญ : จากนโยบายการยุติปัญหาเอดส์ในประเทศไทย หนึ่งในกระบวนการที่มีความสำคัญ
ต่อการยุติปัญหาเอดส์คือ การค้นหาผู้ป่วย/ ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่
รวดเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรักษา สามารถส่งผลให้ Viral suppression ลดการแพร่กระจายเชื้อ และส่งผลให้
ผู้ป่วยมีชีวิตที่ยืนยาวได้อย่างปกติ จากการทบทวนข้อมูลการเริ่มยาต้านไวรัส ในโรงพยาบาลด่านขุนทดในปี 2561
พบว่าผู้ป่วยเริ่มยาต้านไวรัสมีค่าเฉลี่ยที่ 31 วัน โดยตามแนวทางการเริ่มยาต้านไวรัสแนะนำให้เริ่มยาต้านไวรัสให้เร็ว
ที่สุดและไม่เกิน 14 วัน ปัญหาสำคัญที่ไม่สามารถเริ่มยาต้านไวรัสได้อย่างรวดเร็วผลจากการทบทวนกระบวนการ
พบว่าการตรวจคัดกรองก่อนเริ่มยาล่าช้า รอผล CD4, Cypto antigen ต้องส่งต่อผู้ป่วยเพื่อคัดกรอง CMV และล่าช้า
จากการรักษา OI จากปัญหาดังกล่าวจึงได้มีการปรับกระบวนการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเริ่มยาต้าน
ไวรัสภายใน 14 วัน
กิจกรรมการพัฒนา : การปรับเปลี่ยนการดูแลผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพื่อให้สามารถเริ่มยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้น มีการปรับ
กระบวนการ ดังนี้
1. มีระบบ Pop up รายงานผลผู้ติดเชื้อรายใหม่ เชื่อมกับระบบ LIS
2. มีการติดตามผล CD4, Cypto antigen ก่อนการเริ่มยา ในระบบ NAP
3. การตรวจตาก่อนเริ่มยาต้านไวรัส ทำที่โรงพยาบาลด่านขุนทด ไม่ต้องส่งไปตรวจตาที่ รพ.มหาราชฯ โดย
พยาบาลเฉพาะทางเวชปฏิบัติตา กรณีที่ผลการตรวจตาผิดปกติจึงจะพิจารณา Refer ตามแนวทาง
4. นัดเข้าสู่คลินิกยาต้านไวรัสภายใน 1 สัปดาห์
5. มีการติดตามโดยทีมคลินิกในกรณีที่ผู้ป่วย/ ผู้ติดเชื้อไม่มาตามนัด
6. ให้คำปรึกษาก่อนการเริ่มยาต้านไวรัส และให้ผู้ป่วยได้ร่วมวางแผนการกินยาที่เหมาะสม
7. ติดตามปัญหาระหว่างการเริ่มยาต้านไวรัส
การวัดผลและผลของการเปลี่ยนแปลง : จากการเปลี่ยนแปลงและพัฒนารูปแบบการเริ่มยาต้านไวรัส ในปี 2562
พบว่า ค่าเฉลี่ยในการเริ่มยาต้านไวรัส อยู่ที่ 12 วัน เมื่อแยกตามกลุ่มผู้ป่วยพบว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ที่มีผล CD4
3
<100 (ผล CD4 13 – 53 cell/ mm ) จำนวน 6 ราย ค่าเฉลี่ยของการเริ่มยาต้านไวรัสอยู่ที่ 22 วัน เนื่องจากมีการ
รักษา OI (TB = 3, CMV = 2, Herpes = 1) ในผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีผล CD4 > 100 (ผล CD4 105 – 962 cell/
3
mm ) จำนวน 12 ราย ค่าเฉลี่ยของการเริ่มยาต้านไวรัสอยู่ที่ 10 วัน
บทเรียนที่ได้รับ : การเริ่มยาต้านไวรัสที่รวดเร็วมีความสำคัญต่อการรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพื่อให้ Viral Suppression
แต่ผู้ป่วยต้องปลอดภัยจากการรับยาต้านไวรัส ดังนั้นการคัดกรองความเสี่ยงและการรักษา OI เพื่อให้ผู้ป่วยลดความ
ทุกข์ทรมานจากภาวะแทรกซ้อนจะช่วยให้แนวโน้มของการรับยาต่อเนื่องและคงอยู่ในการรักษาดีขึ้น รวมถึงการให้
คำปรึกษาและช่วยผู้ป่วยแก้ไขปัญหาที่มีความสัมพันธ์กับการกินยาจะส่งผลต่อ Adherence ที่ดีด้วย
คำสำคัญ : Early ART