Page 284 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13
P. 284
280
13-05 Oral Presentation
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาระบบการจัดการภาวะเสี่ยงจากการประมาณค่าน้ำหนักของทารกในครรภ์ โรงพยาบาลประโคน
ชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ผู้นำเสนอ : ณภัทร สุนทรลิ้มศิริ
E-mail : napat.sontonlim@gmail.com เบอร์โทรศัพท์ 09 8241 9144
หน่วยงาน : โรงพยาบาลประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ความเป็นมาและความสำคัญ : น้ำหนักทารกในครรภ์เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่มีผลต่อการวางแผนการคลอด
และการตัดสินใจการช่วยคลอดที่เหมาะสม ในปี 2558 โรงพยาบาลประโคนชัยพบปัญหาเจ้าหน้าที่ห้องคลอด
ประมาณค่าน้ำหนักทารกในครรภ์ผิดพลาด สาเหตุคือใช้การประมาณค่าน้ำหนักทารกในครรภ์จากการคาดคะเนด้วย
สายตาและความรู้สึกของตนเอง เทคนิคการวัดระดับยอดมดลูกไม่ถูกต้อง โดยพบสาเหตุคือทักษะการวัดความสูงของ
มดลูกจากกระดูกหัวเหน่า (Symphysis pubis) ถึงยอดมดลูก (High of fundus) เป็นเซนติเมตรของเจ้าหน้าที่ไม่
เหมือนกัน และประเมินความเสี่ยงไม่ได้ ทำให้เกิดอุบัติการณ์การคลอดติดไหล่ ทารกเสียชีวิต 1 และการส่งต่อ
โรงพยาบาลบุรีรัมย์ด้วยปัญหาประมาณค่าน้ำหนักทารกในครรภ์ผิดพลาด ร้อยละ 25.7 วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา
ระบบการจัดการภาวะเสี่ยงจากการประมาณค่าน้ำหนักของทารก ในครรภ์
วัตถุประสงค์/เป้าหมาย/เครื่องชี้วัด : เพื่อพัฒนาระบบการจัดการภาวะเสี่ยงจากการประมาณค่าน้ำหนักของทารก
ในครรภ์
กิจกรรมการพัฒนา : แบบการวิจัยเป็นการวิจัยและพัฒนา กิจกรรมการพัฒนาประกอบด้วย การพัฒนาศักยภาพ
พยาบาลห้องคลอดโดยฝึกทักษะการประมาณค่าขนาดของทารกในครรภ์ ประชุมวิชาการ ทบทวนเหตุการณ์
Conference การนิเทศงานจากหัวหน้างาน จัดทำแนวทางการประเมินแรกรับและใช้เครื่องมือคาดคะเนน้ำหนักทารก
ในครรภ์ เพื่อใช้ประกอบการประมาณค่าน้ำหนักของทารกในครรภ์ วางระบบการรายงานแพทย์ ระบบการช่วยคลอด
ติดไหล่ การกำหนดเกณฑ์ส่งต่อทารกตัวโต ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2558 – พฤษภาคม 2562 กลุ่ม
ตัวอย่าง คือ ผู้มาคลอดบุตรในโรงพยาบาลประโคนชัย จำนวน 1,237 ราย ใช้สถิตเชิงพรรณนาวิเคราะห์ข้อมูล
ผลการพัฒนา : ผลการศึกษาพบว่าภายหลังการพัฒนาเจ้าหน้าที่ห้องคลอดประมาณค่าน้ำหนักของทารกในครรภ์ได้
ใกล้เคียงกับน้ำหนักทารกแรกเกิด และมีวางแผนการคลอดที่เหมาะสม คลอดปกติไม่มีภาวะแทรกซ้อน ร้อยละ 92.6
ในรายที่ประมาณค่าน้ำหนักของทารกในครรภ์ ≥ 3,500 กรัม ไม่สามารถส่งต่อได้ทัน ไม่พบอุบัติการณ์ที่เกิดจากทารก
ตัวโตและไม่พบทารกเสียชีวิต ในรายส่งต่อโรงพยาบาลบุรีรัมย์ด้วยน้ำหนักของทารกในครรภ์ ≥ 3,500 กรัม พบความ
แม่นยำในการใช้เครื่องมือคาดคะเนน้ำหนักทารกในครรภ์และน้ำหนักของทารกในครรภ์ ≥ 3,500 กรัมจริง ร้อยละ
93.4
บทเรียนที่ได้รับ/การนำไปใช้ประโยชน์ : สรุปได้ว่า การพัฒนาระบบการจัดการภาวะเสี่ยงจากการประมาณค่า
น้ำหนัก ของทารกในครรภ์ โรงพยาบาลประโคนชัย สามารถช่วยให้เจ้าหน้าที่วางแผนการคลอดได้อย่างเหมาะสม
ทารกคลอดได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น สามารถลดอุบัติการณ์ที่สามารถป้องกันได้ การจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ใน
ระบบพี่สอนน้อง น้องช่วยพี่ ทำให้ลดความวิตกกังวลและบรรยากาศในการทำงานดีขึ้น และเนื่องจากโรงพยาบาล
ประโคนชัยไม่มีสูติแพทย์ ทำให้ศักยภาพไม่เพียงพอในการผ่าตัดคลอดทารกตัวโต แต่เมื่อมีการทบทวนอุบัติการณ์ทำ
ให้เจ้าหน้าที่ในห้องคลอดเกิดความมั่นใจ และสามารถประเมินค้นหาโอกาสพัฒนาและปรับปรุงระบบการประมาณค่า
น้ำหนักของทารกในครรภ์ตั้งแต่แรกรับเพื่อป้องกันภาวะเสี่ยง ข้อเสนอแนะ ควรติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตาม
แนวทางที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง