Page 286 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13

282

13-07 Oral Presentation

ชื่อเรื่อง : ผลของการใช้แบบประเมิน CRE scoring คัดกรองและติดตามการติดเชื้อ VAP- CRE ในผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วย
หายใจ
ผู้นำเสนอ : สุภาพร ศรีพนม ตำแหน่ง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ

E-mail : supapornicmhr@gmail.com เบอร์โทรศัพท์ 08 9280 8352
หน่วยงาน : โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา

ความเป็นมาและความสำคัญ : การติดเชื้อดื้อยากลุ่ม Carbapenem เป็นการติดเชื้อในผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงโดยเฉพาะใน
ผู้ป่วยที่ใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ผลกระทบทำให้ผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลนานขึ้นและเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้น อัตราการ
เสียชีวิตร้อยละ 40-50 (CDC, 2012) เชื้อดื้อยา CRE ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมามีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ผู้ป่วย
ส่วนใหญ่วิกฤต เจ็บป่วยรุนแรง มีการใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งทำให้เกิดการติดเชื้อที่สัมพันธ์กับการติด

เชื้อปอดอักเสบที่สัมพันธ์กับการใช้เครื่องช่วยหายใจ (VAP) และการติดเชื้อดื้อยา จากหลักฐานเชิงประจักษ์ การแยก
ผู้ป่วยที่ติดเชื้อออกจากผู้ป่วยอื่นให้เร็วที่สุดและคัดกรองผู้ป่วยที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเป็นการป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจาย
เชื้อที่ดี ทำได้ง่าย รวดเร็วและราคาถูก นำไปสู่การป้องกันการแพร่กระจายเชื้อดื้อยาในหอผู้ป่วย การพัฒนาแบบประเมิน
CRE scoring เป็นประเด็นที่น่าสนใจและท้าทายในการพัฒนาคุณภาพแก่ผู้ป่วยให้ได้รับการพยาบาลที่มีคุณภาพและ

ปลอดภัย
กิจกรรมการพัฒนา : ใช้รูปแบบ The Iowa Model โดย 1. ระบุปัญหาจากการปฏิบัติงาน ความรู้ที่มีอยู่และจากการ
ทบทวนความรู้ 2. พัฒนานวัตกรรมจากหลักฐานเชิงประจักษ์โดยใช้แนวคิดของ PICO framework 3. วิเคราะห์
สังเคราะห์ ประเมินงานวิจัย 4. ตรวจสอบคุณภาพของหลักฐานเชิงประจักษ์ วิธีดำเนินการ 1.ใช้ PICO framework โดย
ใช้คำสืบค้น Adult on Ventilator prevention and control and risk factor VAP and CRE 2. ทบทวนงานวิจัย

ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อดื้อยา CRE 3. จำแนกปัจจัยเสี่ยงของการติดเชื้อดื้อยาจัดหมวดหมู่ตามหลักทางระบาดวิทยา 4.
กำหนดปัจจัยเสี่ยง CRE และคะแนนปัจจัยเสี่ยงตาม Scoring rubric 5. ออกแบบประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อดื้อยาและ
นำไปหาคุณภาพของแบบประเมินซึ่งได้ ROC = 74.6 sensitivity 80% Specificity 46.3% ความตรงตามเนื้อหาได้ค่า
CVI = 0.97 ความเชื่อมั่นของความสอดคล้องภายในโดย Inter-rater Reliability ได้ค่า r = 0.813 6. นำแบบประเมิน

CRE scoring ที่ได้ไปคัดกรองผู้ป่วยแรกรับที่เข้ารักษาในหอผู้ป่วยวิกฤติ โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจที่
เข้ารับการรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤติ > 4 วัน วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการพัฒนา : ผู้ป่วยที่ใส่ท่อช่วยหายใจในหอผู้ป่วยวิกฤติ 56 คน ได้รับการคัดกรองประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อดื้อยา
CRE โดยใช้ CRE scoring เพศชาย 38 คน (67.9%) เพศหญิง 18 คน (32.1%) อายุเฉลี่ย 55.12 ปี (18-88 ปี), S.D. 14.9
เจ็บป่วยระบบ Infection disease มากที่สุดรองลงมา Cardiovascular system และ Respiratory system วินิจฉัย
Sepsis/septicemia มากที่สุด คะแนนคัดกรองตาม CRE scoring แบ่งได้ 2 กลุ่ม กลุ่มเสี่ยงต่ำ 48 ราย (85.7%) และ

กลุ่มเสี่ยงสูง 8 ราย (14.3%) คะแนน CRE scoring ค่าเฉลี่ย 8.6 คะแนน (5-15 คะแนน) S.D. 2.1 ได้คะแนน CRE
scoring 10 คะแนนเป็นส่วนใหญ่และผู้ป่วยได้รับการดูแลตาม WHAP bundle ซึ่งใส่ท่อช่วยหายใจ 4 วันมากที่สุด ใส่ท่อ
ช่วยหายใจเฉลี่ย 7.43 วัน (4-18วัน) การเกิด early-onset VAP-CRE ในวันที่ 4 เกิด VAP 1 ราย (1.8%) ไม่ติดเชื้อ VAP–
CRE 55 ราย (98.2%) และติดตามเฝ้าระวังการเกิด VAP–CRE > 4 วัน (Late onset VAP) 3 ราย (5.4%), VAP

pathogen อื่น 7 ราย (12.5%), HAP 2 ราย (3.6%) ไม่ติดเชื้อ 42 ราย (75%) ผู้ป่วยจำหน่ายโดยเสียชีวิตมากที่สุด
บทเรียนที่ได้รับ/การนำไปใช้ประโยชน์ : มีแบบประเมิน CRE scoring คัดกรองผู้ป่วยเสี่ยงการติดเชื้อดื้อยา CRE ที่เข้า
รับการรักษาในหอผู้ป่วยโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
คำสำคัญ : แบบประเมิน CRE scoring การติดเชื้อ VAP- CRE