Page 316 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13
P. 316
312
15-06 Poster Presentation นักศึกษาพยาบาลศาสตร์
ชื่อเรื่อง : ผลของการสอนสุขศึกษาโดยประยุกต์ใช้ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนของเอจเซนในนิสิตพยาบาล
มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น บุรีรัมย์ ต่อความตั้งใจ ความรู้ และทัศนคติการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม
ผู้นำเสนอ : นางสาวเจนจิรา บุญสะอาด, นางสาวอรัญนาตร์ ราชโพธิ์ทอง และคณะ
โทรศัพท์ 097-1796469 E-mail arunyanatnan@gmail.com
สถาบันการศึกษา : คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น จังหวัดบุรีรัมย์
บทนำ : ปัญหาวัยรุ่นในปัจจุบัน คือการตั้งครรภ์ไม่พร้อม พบว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ขาดขาดวุฒิภาวะ และทักษะการควบคุม
อารมณ์ทางเพศ ขาดความรู้และความเข้าใจในการป้องกันการตั้งครรภ์ และคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ไม่สามารถ
ตั้งครรภ์ได้ ซึ่งถือเป็นความเข้าใจที่ผิด โดยองค์การอนามัยโลกได้รายงานว่ามีวัยรุ่นทั่วโลกประมาณ 14 ล้านคน ตั้งครรภ์ และ
คลอดบุตรในช่วงอายุ 15 -19 ปี สำหรับประเทศไทย เป็นประเทศที่มีอุบัติการณ์ การเกิดการตั้งครรภ์ไม่พร้อมสูงเป็นอันดับที่
2 ของโลก ทำให้เกิดอุบัติการณ์ต่าง ๆ การผ่าตัดคลอดโดยไม่จำเป็น เกิดภาวะซึมเศร้า อัตราค่าครองชีพไม่เพียงพอ จากการใช้
จ่ายดูแลบุตร ปัญหาการทอดทิ้งบุตร เป็นต้น จากการทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีหลายหน่วยงานที่ร่วมกันแก้ไข
ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม โดยใช้รูปแบบการแก้ไขปัญหาที่หลายหลาย แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร รวมทั้งวัยรุ่นยัง
ต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม เข้าศึกษาต่อสถาบันที่สูงขึ้น ย้ายที่อยู่เพื่อเข้าไปศึกษาในสถาบันการศึกษา : ตาม
จังหวัดต่าง ๆ พบเพื่อนใหม่ เรียนรู้การอยู่กับเพื่อนต่างเพศ จึงเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นเลือกคบเพื่อนต่างเพศ และ
อาศัยอยู่ด้วยกันตามแนวคิดอิทธิพลของสากลในปัจจุบัน ผู้วิจัยให้ความสำคัญกับวัยรุ่นที่กำลังศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศา
สตรบัณฑิต เพราะเป็นกลุ่มคนที่ศึกษาค่อนข้างน้อย เป็นแบบอย่างทางด้านสุขภาพ จึงเลือกที่จะศึกษาโดยใช้รูปแบบของการ
ให้ความรู้สุขศึกษาเพราะมีความเหมาะสมในเรื่องของการสื่อสารกับกลุ่มตัวอย่าง อย่างใกล้ชิด ใช้ทรัพยากรประหยัด มี
ประสิทธิภาพในการสอนตัวต่อตัว โดยนำกรอบทฤษฎีตามแผนของเอจเซน (1991) มาประยุกต์ใช้ที่อธิบายไว้ว่า พฤติกรรมจะ
ถูกเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 สิ่งคือ ทัศนคติที่ดีต่อการป้องกันการตั้งครรภ์ การสนับสนุนจากบุคคลใกล้ชิด และ
การรับรู้ความสามารถในการควบคุมตนเองป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม หากผู้เรียนได้รับการเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมที่สอดแทรก
แล้ว จะทำให้เกิดความตั้งใจ ความรู้ และทัศนคติที่ดีต่อการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม
วัตถุประสงค์ของการวิจัย : เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความตั้งใจ ความรู้ และทัศนคติ ระหว่างก่อนและหลังการให้สุขศึกษา
เรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มแกนนำนิสิต
กระบวนการหรือวิธีการดำเนินการวิจัย : การศึกษาครั้งนี้เป็นศึกษาแบบกึ่งทดลอง ศึกษาแบบสองกลุ่มวัดผลก่อนและ
หลังจากการให้สุขศึกษา กลุ่มตัวอย่างเป็นนิสิตพยาบาล ชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ บุรีรัมย์ จำนวน 33 คน คณะผู้วิจัย
สร้างคู่มือและแผนการสอน ตามกรอบแนวคิดของเอจเซน ประกอบด้วย การชมวิดีโอ เรื่อง “รักในวัยเรียน” กิจกรรมให้
ความรู้เรื่องผลกระทบของการตั้งครรภ์ การใช้ถุงยางอนามัยและยาเม็ดคุมกำเนิด และให้สะท้อนคิด หลังจากเข้าสุขศึกษาให้
ตอบแบบสอบถามที่พัฒนามาจาก เพ็ญนภา ศรีหริ่ง, สุทิน ชนะบุญ และคนธ์พงษ์ คนรู้ชินพงศ์ (2557) เรื่อง ความรู้ ทัศนคติ
ความตั้งใจ และปัจจัยที่มีผลต่อความตั้งใจในการป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ และมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยของวัยรุ่น
จังหวัดขอนแก่น
ผลการวิจัย : ภายหลังการทดลอง พบว่า คะแนนเฉลี่ยด้านความรู้ และด้านทัศนคติเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม เพิ่ม
สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ p < .001 ส่วนคะแนนเฉลี่ยด้านความตั้งใจเรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อมเพิ่มสูงขึ้นแต่
ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ข้อเสนอแนะ : ควรนำแผนการสอนนี้ไปใช้กับนักเรียนในหลักสูตรอาชีวศึกษา และมัธยมศึกษา รวมทั้งเป็นแนวทางในการให้
ความรู้กับวัยรุ่นที่มาขอคำปรึกษาในคลินิกวัยรุ่น
คำสำคัญ : การสอนสุขศึกษา, ทฤษฎีพฤติกรรมตามแผนของเอจเซน, การตั้งครรภ์ไม่พร้อม