Page 142 - จดหมายเหตุ final-2
P. 142

ส่วนหลักฐำนทำงประวัติศำสตร์และโบรำณคดีน้น พระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
                                                                 ั
                                                                                      ื
               โปรดให้รวบรวมโบรำณศิลปวัตถุส�ำคัญต่ำง ๆ ในเมืองพิษณุโลก และเมืองอ่น ๆ โดยน�ำไปเก็บ
               รักษำไว้ในพิพิธภัณฑ์สถำนส่วนพระองค์ ต่อมำในปีพุทธศักรำช ๒๓๙๙ จึงโปรดให้สร้ำงพระท่น่ง “ประพาส
                                                                                             ั
                                                                                            ี
                            ึ
                                         ี
               พิพิธภัณฑ์” ข้น เพ่อใช้เป็นท่แสดงโบรำณศิลปวัตถุท่ทรงรวบรวมไว้ ส่วนข้อควำมในจำรึก พระองค์
                                ื
                                                              ี
                                                                    ื
                                                                           ี
               ได้ทรงพำกเพียรอ่ำนจนเข้ำใจควำมในจำรึกโดยตลอด ท�ำให้รู้เร่องรำวเก่ยวกับพงศำวดำรสยำม ต้งแต่คร้ง
                                                                                                      ั
                                                                                                ั
               สมัยรำชวงศ์พระร่วง
                      พุทธศักรำช ๒๔๐๙ พระบำทสมเด็จพระจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ทรงพระอุตสำหะเสด็จประพำสเมือง
                                                    ี
                                                      ั
                         ั
                             ึ
               เหนืออีกคร้งหน่ง  โดยเสด็จทำงเรือพระท่น่งอรรครำชวรเดช  และพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำ
                                ั
               เจ้ำอยู่หัว  ขณะน้นก�ำลังผนวชเป็นสำมเณรก็ได้ตำมเสด็จด้วย  เม่อเสด็จถึงเมืองพิษณุโลก
                                                                               ื
               ได้ทรงประทับและทรงสมโภชพระพุทธชินรำชอยู่ ๒ วัน จึงเสด็จกลับ ต่อมำพระบำทสมเด็จ
                                                                                              ั
               พระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว และพระบำทสมเด็จพระมงกุฎเกล้ำเจ้ำอยู่หัว (เม่อคร้งยังด�ำรง
                                                                                          ื
               พระอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสำธิรำชฯ) ได้เสด็จประพำสเมืองพิษณุโลก ได้ทรงพระรำช
                                     ี
               นิพนธ์เร่องรำวต่ำง ๆ ท่พระองค์ได้เสด็จไปทอดพระเนตรในระหว่ำงเสด็จประพำส เช่น เร่องเท่ยว
                                                                                                     ี
                                                                                                ื
                       ื
                                           ื
                                                                   ื
               เมืองพระร่วง พระรำชปรำรภเร่องพระพุทธชินรำช และเร่องลิลิตพำยัพ เป็นต้น เอกสำรดังกล่ำวน   ้ ี
                                    ิ
               ปัจจุบันมีคุณค่ำอย่ำงย่งทำงด้ำนประวัติศำสตร์ ส่วนพระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว
                                                     ิ
               ทรงประทับพระรำชหฤทัยในควำมศักด์สิทธ์ และควำมสวยงำมของพระพุทธชินรำช จึงโปรดให้จ�ำลอง
                                                 ิ
               พระพุทธรูปพระพุทธชินรำชไปเป็นประธำนในพระอุโบสถวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนำรำมรำชวรวิหำร
                 ี
               ท่พระองค์ทรงสร้ำงข้นในสมัยน้น นอกจำกน้ พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว ทรงประกอบ
                                 ึ
                                                      ี
                                          ั
               พระรำชกรณียกิจไว้ให้กับเมืองพิษณุโลกหลำยด้ำน พอสรุปได้ดังนี้
                      ด้านการปกครอง พุทธศักรำช ๒๔๓๗ พระบำทสมเด็จพระจุลจอมเกล้ำเจ้ำอยู่หัว โปรดให้ปฏิรูป
               กำรปกครองเป็นแบบระบบมณฑลเทศำภิบำล  คือมีข้ำหลวงเทศำภิบำลมณฑลเป็นผู้บริหำรรำชกำร
               ต่ำงพระเนตรพระกรรณ ให้ประชำชนมีสิทธิเสรีภำพในกำรเลือกผู้บริหำรระดับต�ำบลและหมู่บ้ำน



                      พุทธศักรำช ๒๔๕๐ เมืองพิษณุโลกจัดแบ่งกำรปกครองออกเป็น ๕ อ�ำเภอ ได้แก่ อ�ำเภอเมือง อ�ำเภอ
               ชุมแสง อ�ำเภอนครป่ำหมำก อ�ำเภอพรหมพิรำม และอ�ำเภอเมืองนครไทย ต่อมำในพุทธศักรำช ๒๔๖๐

               ได้เปลี่ยนชื่อจำกอ�ำเภอชุมแสง เป็นอ�ำเภอบำงระก�ำแทน และในพุทธศักรำช ๒๔๗๐ ได้จัดตั้ง กิ่งอ�ำเภอ
               บำงกระทุ่มขน
                          ้
                          ึ








          ๑๔๒
   137   138   139   140   141   142   143   144   145   146   147