Page 141 - จดหมายเหตุ final-2
P. 141
สมเด็จพระเจ้ำกรุงธนบุรีทรงเห็นว่ำไทยเสียเปรียบ เพรำะมีก�ำลังทหำรน้อยกว่ำ จึงควรถอยทัพ
ั
ี
กลับไปต้งม่นรับทัพพม่ำท่กรุงธนบุรี เจ้ำพระยำจักรีกลับมีควำมเห็นว่ำ กองทัพไทยในเมืองพิษณุโลก
ั
ุ
ุ
ี
ควรตีหักค่ำยพม่ำออกไปรับทัพพม่ำพร้อม ๆ กับกองทัพหลวง แต่สมเด็จพระเจ้ำกรงธนบรไม่เหนด้วย
็
ึ
ทำงเมืองพิษณุโลกจึงท�ำกำรต่อสู้กองทัพพม่ำไปอีกระยะหน่ง เม่อเจ้ำพระยำจักรีเห็นว่ำไทยขำดเสบียง
ื
ั
อำหำรและใกล้จะหมดทำงสู้ จึงตัดสินใจพำไพร่พล และประชำชนชำยหญิงท้งหมดตีหักค่ำยพม่ำออกจำก
เมืองพิษณุโลกไปทำงทิศตะวันออกได้ส�ำเร็จ พำทัพผ่ำนบ้ำนมุง บ้ำนดอนชมพู ข้ำมเขำบรรทัด ไปตั้ง
ี
รวมพลอยู่ท่เมืองเพชรบูรณ์
พม่ำล้อมเมืองพิษณุโลกอยู่นำนถึง ๔ เดือน เม่อเข้ำเมืองได้ก็พบแต่เมืองเปล่ำ อะแซหวุ่นก ี ้
ื
ั
จึงส่งให้เผำท�ำลำยเมืองพิษณุโลกพินำศจนหมดส้น คงเหลือแต่พระพุทธชินรำชและพระวิหำรท ี ่
ิ
ั
ประดิษฐำนเท่ำน้น
สมัยรัตนโกสินทร์
ี
พุทธศักรำช ๒๓๒๕ ถึง ๒๔๑๑ ตรงกับรัชกำลท่ ๑ ถึง ๔ แห่งรำชวงศ์จักรี ซ่งเป็นช่วงกรุงรัตนโกสินทร์
ึ
ี
ตอนต้น ในระยะเวลำช่วงแรก ส�ำรวจไม่พบหลักฐำนทำงประวัติศำสตร์ท่แสดงถึงควำมเป็นมำของ
ี
ี
ั
เมืองพิษณุโลกในสมัยน้น ท้งน้อำจเป็นเพรำะระยะเวลำท่ไทยก�ำลังก่อสร้ำงบ้ำนเมืองใหม่และก�ำลังท�ำศึก
ั
สงครำมติดพันกับพม่ำด้วย เร่องรำวทำงประวัติศำสตร์ของเมืองพิษณุโลกในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
ื
ได้พบหลักฐำนคร้งแรกในพงศำวดำร และจดหมำยเหตุประจ�ำรัชกำลต่ำง ๆ ซ่งเร่มปรำกฏชัดแจ้ง
ั
ึ
ิ
ในรัชกำลท่ ๓ ดังน ี ้
ี
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นน้น เมืองพิษณุโลกมีฐำนะเป็นเมืองเอกท่มีขนำดใหญ่ท่สุด
ี
ั
ี
ในหัวเมืองฝ่ำยเหนือของประเทศไทย มีประชำกรท้งส้นประมำณ ๑๕,๐๐๐ คน ซึ่งเป็นชำวจีนประมำณ
ั
ิ
๑,๑๑๒ คน และมีเมืองต่ำง ๆ อยู่ในอ�ำนำจกำรปกครองดูแลหลำยหัวเมืองด้วยกัน คือ เมืองนครไทย
เทพบุรี ศรีภิรม พรหมพิรำม ชุบศรส�ำแดง ชุมแสงสงครำม ด่ำนซ้ำย นครนำคง ชำตกำล
และศรีพนมมำศ ประชำชนส่วนใหญ่ประกอบอำชีพส�ำคัญ คือ ท�ำนำ ท�ำไร่ หำของป่ำ ท�ำไม้
และเกณฑ์แรงงำนไพร่
๑๔๑

