Page 7 - หลักสูตรประวัติศาสตร์ฯ จ.ร้อยเอ็ด
P. 7

๒

               ซึ่งการที่จะทําให้ประวัติศาสตร์มีความสําคัญได้นั้น เราจึงควร ส่งเสริมตั้งแต่ในวัยเด็ก จึงเกิดรูปแบบการมีส่วน

               ร่วมของชุมชน และน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีอีกทาง หนึ่ง จึงจําเป็นอย่างยิ่งที่โรงเรียนจะต้องหันหน้าเข้าหา
                                                                                                   ึ
               ชุมชนจะดีกว่า ซึ่งวิธีนี้จะสามารถทําได้ง่ายกว่า เพราะโดยปกติแล้วชุมชนจะมีความคาดหวังกับสถานศกษา
                                                                                ี
               มากกว่าที่จะให้ศึกษาจากชุมชน เพราะ สถานศึกษาเป็นแหล่งการเรียนรู้ และมข้อมูลทางวิชาการมากกว่า
               ชุมชน ทั้งเอกสารและทรัพยากร บุคคลสําหรับใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้ ซึ่งหากเอาความรู้จากสถานบันเข้าหา
               ชุมชน จะเป็นการ ช่วยเหลือชุมชนก่อนที่จะให้ชุมชนยื่นมือมาหาเราน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี การมีส่วนร่วม

               ระหว่าง โรงเรียนกับชุมชน ดังงานวิจัยของ สุภัทรา อักกะมานั่ง (2554) ที่นําเอารูปแบบการวิจัยไปใช้แล้วมี
               การร่วมมือกันระหว่างชุมชนกับผู้วิจัย โดยเฉพาะเทคนิคการวิจัยโดยการมีส่วนร่วม หรือการวิจัย ปฏิบัติการ

               แบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research- PAR) เพื่อให้ชุมชนได้เล็งเห็นว่าโรงเรียน มีความสนใจ
               พัฒนาชุมชนอย่างแท้จริง

                       การศึกษาประวัติศาสตร์ท้องถิ่น วิธีหนึ่งสามารถทําได้โดยการจัดการศึกษาโดยใช้ชุมชน เป็นฐานการ
                                                                             ึ
               เรียนรู้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่มีมานานแล้ว ด้วยรูปแบบที่คุ้นเคย คือ การจัดการศกษาโดยความ ร่วมมือระหว่าง
               บ้าน-วัด-โรงเรียน หรือที่เรียกย่อๆ ว่า บวร (ประเวศ วะสี, 2555) ผลการจัดการเรียนรู้ โดยความร่วมมอของ
                                                                                                   ื
               องค์กรหลักทั้งสามของชุมชน มีข้อดีอยู่บ้าง โดยเฉพาะการตอบสนองความ ต้องการในการพัฒนาคุณภาพ
               สถานศึกษาที่ตั้งอยู่ในชุมชน และทรัพยากรเพื่อนํามาพัฒนา ซึ่ง ประเวศ วะสี (2555) เห็นว่าการจัดการศึกษา

               โดยทั่วไปไม่เอาความจริงในสังคม การเป็นอยู่ร่วมกันเป็นหลัก เอาเนื้อหาวิชาเป็นหลัก จึงทําให้การศึกษาอยู่
               นอกสังคม ดังนั้น จึงควรจัดการศึกษาโดยการสร้างสังคม ความรู้และสังคมภูมิปัญญา ให้เป็นแนวทางสําคัญ
               ของแผนการศกษาแห่งชาติ (กล้า ทองขาว, 2556) ด้วยการอาศัยรากฐานของสังคม และบูรณาการ โดยใช้
                           ึ
                                      ื่
               ชุมชนของตนเองเป็นหลักเพอนํามาใช้ในการ พัฒนาการศึกษา (สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา, 2552)
                                                                                 ึ
                       จากความสําคัญในการสร้างสังคมความรู้และสังคมภูมิปัญญา สามารถศกษาโดยใช้ชุมชน เป็นฐาน
               การเรียนรู้ ดังพบจากงานวิจัยของ บุญเรียง ขจรศิลป์ (2553) การพัฒนาหน่วยการเรียนรู้วิชา ท้องถิ่นของเรา
               เรื่อง “วัฒนธรรมท้องถิ่นชุมชนนาโค” โดยใช้โรงเรียนและชุมชนเป็นฐาน ซึ่งมี ข้อสรุปดังนี้ กระบวนการจัด

                                       ั
               หลักสูตรท้องถิ่นที่มีต่อการพฒนาการเลี้ยงโคนมทได้พัฒนาขึ้นมา สามารถนําไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ
                                                        ี่
               สอดคล้องกับแนวคิดในการพฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ขั้นพื้นฐานที่เน้นความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น และ
                                       ั
               การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการเรียนรู้ เพอตอบสนองความสนใจของผู้เรียน ชุมชน และทรัพยากร
                                                       ื่
               ท้องถิ่น การจัดการเรียนรู้แบบนี้ ควรเน้น ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติ ให้ทําได้ คิด
               เป็น แก้ปัญหาเป็น และรักการ เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และงานวิจัยของ ประภาพรรณ อุ่นอบ (2556)

               โครงการวิจัยเรื่อง การจัดการภัย พิบัติทางธรรมชาติโดยมีชุมชนเป็นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น : การ
               จัดการอทกภัยใน ปี 2554 ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีหลักให้มีหลักสูตรการจัดการภัยพิบัติโดยมีชุมชนเป็นฐาน
                      ุ
               เพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในชุมชนต่างๆ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยอีกมากมายที่เป็นหลักสูตรที่ จากที่
               กล่าวมาจะเห็นได้ว่าประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ใกล้ชิดกับผู้คน จึงเป็นประวัติศาสตร์ที่ เต็มไปด้วยความภูมิใจของ

               คนที่อยู่ในชุมชน จากอดีตสู่ปัจจุบัน และอนาคต เพอส่งเสริมจิตวิญญาณ ให้คนในท้องถิ่นหรือชุมชน อยู่อย่าง
                                                          ื่
                                      ้
               มีศักดิ์ศรี มั่นคง พอที่จะแกไขปัญหาได้ จึงจําเป็นต้องได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาล และเอกชน ที่มีส่วนร่วมใน
               การพัฒนาประเทศชาติ โดยใช้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น เป็นสื่อกลาง และได้นําการจัดการศกษาประวัติศาสตร์
                                                                                        ึ
               ท้องถิ่น โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน เพื่อสร้างภูมิปัญญาและสังคมการเรียนรู้ในชุมชน ทําให้เกิดความเข้าใจ
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12