Page 19 - คู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆใส่ แบล็คกราววววววววววววว
P. 19
19
ี่
5. การประพฤติตนเป็นแบบอย่างทดีแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ผู้บริหารโรงเรียนจะต้องวางตน
ให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ครูในโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนต้องการให้ครูเอาใจใส่การเรียนรู้ของผู้เรียน
เป็นรายบุคคล ผู้บริหารจะต้องหยิบยกเรื่องนี้มาปรึกษาหารือกับครูอย่างสม่ำเสมอ หากผู้บริหาร
ต้องการให้ครูมุ่งเน้นการทำงานเป็นทีม ผู้บริหารก็ต้องจัดเวลาให้ครูปรึกษาหารือและตัดสินใจร่วมกัน
เป็นต้น
6. การมีระบบตรวจสอบหรือประเมินผลการเรียนรู้ โรงเรียนจะต้องมีระบบตรวจสอบ
หรือประเมินผลการเรียนรู้ที่แม่นยำและเชื่อถือได้เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันความก้าวหน้าของผู้เรียน
ั่
ตามเป้าหมายในการเรียนรู้ที่กำหนดขึ้น ครูและผู้บริหารจะต้องมีเป้าหมายร่วมกันและมีความมุ่งมนใน
ื่
การดำเนินงานเพอบรรลุเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาผู้เรียน โดยจงใจให้บุคลากรพัฒนาตนเองอย่าง
ต่อเนื่องด้วยการเฉลิมฉลองความสำเร็จซึ่งเป็นกระบวนการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร
ื่
และเพอเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงานแบบเดิมไปสู่วิธีการใหม่ที่ผู้เรียนทุกคนได้รับการเอาใจใส่
และการช่วยเหลือในกรณีทไม่สามารถเรียนรู้ได้ทันตามเวลาที่กำหนด
ี่
7. การเผชิญหน้ากับผู้ต่อต้านเป้าหมายร่วมของครู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการ
ความเสี่ยง (Risk Management) ในการจัดการเปลี่ยนแปลงนั้น ผู้บริหารจะต้องวางแผนเตรียมพร้อม
ที่จะเผชิญสภาพที่ครูบางส่วนมีพฤติกรรมต่อต้านการเปลี่ยนแปลงไม่ให้ความร่วมมอและการ
ื
แสดงออก ถึงการท้าทายในลักษณะต่างๆ โดยไม่ปล่อยให้การท้าทายทำลายเป้าหมายที่ทรงคุณค่า
ในการเสริมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ภายในโรงเรียน ครูในโรงเรียนจะต้องปรับเปลี่ยนวัฒนธรรม การ
ทำงานจากการทำงานตามสูตรสำเร็จตายตัวไปเป็นการทำงานด้วยการเรียนรู้ไปด้วย ปรับวิธีการ
ทำงานอยู่ตลอดเวลา โดยเครื่องมือของการเรียนรู้คือ ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
Louis K.S. et al. (1995: 54 – 57) กล่าวว่า โรงเรียนสามารถเสริมสร้างชุมชนแห่งการ
เรียนรู้ทางวิชาชีพด้วยวิธีการดังนี้
ื่
1. การกำหนดตารางเวลาว่างเพอการปรึกษาหารือ (Time to Meet and Discuss)
หมายถึง การจัดตารางเวลาว่างของครูให้ตรงกันเพื่อให้ครูได้มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันแลกเปลี่ยนความ
คิดเห็น เพอนำไปสู่การพิจารณาหากลยุทธ์ใหม่ๆ ทางด้านการสอนที่เหมาะสม
ื่
2. การกำหนดขนาดของชั้นเรียน (Class Size) ผลงานวิจัยระบุว่า ถ้าจำนวนผู้เรียนในชั้น
ี
เรียนน้อยลงได้เท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิผลของการเรียนรู้ยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ในห้องเรียนที่มีครูเพยง 1 คน ครู
สามารถดูแลผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิผลในจำนวนจำกัด แม้ว่าจะไม่สามารถกำหนดจำนวนผู้เรียนที่
เหมาะสมได้อย่างแน่นอน แต่การขยายจำนวนผู้เรียนต่อชั้นมากขึ้นย่อมเพิ่มภาระและความ
ยากลำบากแก่ครูที่จะช่วยเหลือผู้เรียนได้อย่างทั่วถึง
่
3. การมอบอำนาจความรับผิดชอบแก่ครูและการให้อิสระแกโรงเรียน (Teacher
่
Empowerment and School of Autonomy) หมายถึง การมอบอำนาจแกครูเป็นปัจจัยที่จำเป็น
เนื่องจากช่วยสร้างความรู้สึกมั่นใจต่อการปฏิบัติงานในชั้นเรียนที่ตนรับผิดชอบได้ดีขึ้นและเป็นคน
ลักษณะหนึ่งที่จำเป็นในการสร้างชุมชนในการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ในขณะเดียวกันโรงเรียนแต่ละแห่ง
ก็ควรมีอิสระ (Autonomy) อย่างเพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในโรงเรียนได้อย่าง
คล่องตัวและรวดเร็ว

