Page 16 - Health Impact Assessment of policies related to local pharmaceutical industry development towards technology readiness and access to medicines: HIAPP
P. 16

Health Impact Assessment of policies related to local pharmaceutical industry
            2
                 development towards technology readiness and access to medicines: HIAPP


               ประเทศที่มีขนาดการลงทุนในส่วนวิจัยและพัฒนา ในช่วง 100 - 1,000 ล้านบาท มีเพียง 2 แห่ง ที่เหลือประมาณ

                                                                     2
               180 แห่ง มีการลงทุนในส่วนวิจัยและพัฒนาต ่ากว่า 100 ล้านบาท
                       “ประเทศไทย 4.0” เปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม อุตสาหกรรมยาจัดเป็น 1 ใน 5

               กลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ต้องมีการพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี วิจัยและพัฒนา ที่สอดคล้องกับ

                                             ่
               ความต้องการพัฒนาประเทศและแขงขันได้ในตลาดโลก
                       ภาครัฐมีความพยายามก าหนดนโยบายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมยาตั้งแต่ในอดีต จน ถึง

               ปัจจุบัน แต่การผลักดันให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยาในประเทศไปสู่อุตสาหกรรมต้นน ้ายังไม่เป็นผล ปัจจุบัน

               นโยบายจากรัฐและกระทรวงต่าง ๆ ยังคงเน้นให้เกิดการผลิตยาที่ยั่งยืน มียาเพียงพอต่อความต้องการในประเทศ
               รวมถึงการพัฒนามาตรฐานการผลิตให้เป็นสากลเพื่อแข่งขันกับต่างชาติ เช่น ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 -

               2579), ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579), ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี

               (ด้านสาธารณสุข), นโยบายแห่งชาติด้านยาและยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ.2560 - 2564,
               ยุทธศาสตร์ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2560 - 2564), การพัฒนาอุตสาหกรรม

               สมุนไพรไทยจาก แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย พ.ศ. 2560 - 2564 และล่าสุดเมื่อวันอังคารที่

                                                                             ุ
               7 สิงหาคม ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีมติให้มีกระทรวงใหม่ ชื่อ “กระทรวงอดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม” โดยรวม
                                                                                                             ื่
               มหาวิทยาลัยรัฐ 84 แห่ง มหาวิทยาลัยเอกชน 73 แห่ง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 11 แห่ง เพอ
               ปรับเปลี่ยนประเทศสู่ 4.0

                                                              ี่
                       อย่างไรก็ตาม นโยบายการค้าระหว่างประเทศทอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการพฒนาภาคอตสาหกรรมยา เช่น
                                                                                     ั
                                                                                              ุ
               ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าส าหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and
               Progressive Agreement for Trans- Pacific Partnership – CPTPP) ซึ่งเป็นความตกลงที่ประเทศสมาชิก11

               ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู เม็กซิโก ญี่ปุ่น บรูไน มาเลเซีย สิงคโปร์ และ
               เวียดนาม ได้ร่วมกันลงนาม ณ ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2561 ตัวอย่างมาตราที่น่าจะเป็นอุปสรรคต่อการ

               พัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยาในประเทศ เช่น มาตรา 18.53 ก าหนดให้มีระบบการแจ้งเตือนกับผู้ทรงสิทธิบัตร เมื่อมี

               ยาสามัญมาขึ้นทะเบียนยา
                       ระบบการแจ้งเตือนกับผู้ทรงสิทธิบัตร เมื่อมียาสามัญมาขึ้นทะเบียนยา กล่าวได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้อง

               กับระบบการเชื่อมโยงสถานะของสิทธิบัตรกับการขึ้นทะเบียนยา ซึ่งริเริ่มโดยสหรัฐอเมริกาในปี 1984 ภายใต้ Drug

               Price Competition and Patent Term Restoration Act 1984 หรือ Hatch-Waxman Act หลังจากนั้น
               สหรัฐอเมริกาจึงพยายามปกป้องผลประโยชน์ของอุตสาหกรรมยาของตนในต่างประเทศ โดยการเรียกร้องให้ประเทศ

               คู่เจรจาการค้าจัดท าระบบการเชื่อมโยงสถานะของสิทธิบัตรกับการขึ้นทะเบียนยา ผ่านทางการเจรจาความตกลงเขต

               การค้าเสรีแบบทวิภาคี
                       ปัจจุบัน ประเทศไทยไม่มีระบบการแจ้งเตือนกับผู้ทรงสิทธิบัตร เมื่อมียาสามัญมาขึ้นทะเบียนยา ส าหรับการ

               ขึ้นทะเบียนยาในประเทศไทยอยู่ภายใต้การดูแลโดยส านักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ซึ่ง


               2  ข้อมูลจากความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21