Page 67 - หลักสูตร M1 ( Recruiting and Selection )
P. 67
Pacesetter
เ ป ็ น ค ว า ม พ ย า ย า ม ท ่ ี ด ี แ ต ่ ย ั ง ไ ม ่ ถ ู ก น ั ก
ํ
็
์
่
่
ํ
คูมือทางด ้านบุคคลส่วนใหญ่จะให ้คาจากัดความการสัมภาษณไว ้ว่าเปน “การสนทนาทีมีจุดประสงค์”
ซ ่ ึ ง เ ป ็ น ค ํ า จ ํ า ก ั ด ค ว า ม ท ี ่ ม ี ป ร ะ โ ย ช น ์
็
้
่
่
เนืองจากมันทาให ้เหนถึงข ้อบกพร่องพืนฐานอย่างหนึงซึงผู้สัมภาษณทีไม่ได ้รบการอบรมมักจะพลาดไป
ั
่
ํ
์
่
์
ํ
ํ
็
ํ
คือทาการสัมภาษณเหมือนการพูดคุยกันแบบอิสระ ไม่จาเปนต ้องเตรียมตัว หากคุณทาการสัมภาษณแบบนี ้
์
ํ
้
์
่
่
หยุดทันที จาไว ้ว่าการสัมภาษณเกิดขึนเนืองด ้วยเหตุผลทีเฉพาะเจาะจงดังต่อไปนี ้
่
• เพือประเมินตัวแทนหรือพนกงานฝายสนบสนนทีมีศักยภาพ
่
ุ
ั
่
ั
ํ
่
• เพือกากับดูแล
่
• เพือทบทวนผลการปฏิบัติงานอย่างเปนทางการ
็
่
้
่
ั
• เพือพูดคุยถึงเปาหมายและแผนด ้านอาชีพในอนาคตเพือพฒนาตนเอง
• เพือให ้คาปรึกษาแก่พนกงานทีมีปญหาส่วนตัว
ั
ํ
่
่
ั
่
• เพือหาสาเหตุว่าทาไมบุคคลจึงตัดสินใจออกจากงาน
ํ
์
์
เมือคุณระลึกถึงจุดประสงค์ทีเฉพาะเจาะจงของการสัมภาษณไว ้เสมอ คุณก็จะทาให ้การสัมภาษณดังกล่าว
่
่
ํ
มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลได ้โดยอัตโนมัติ
็
่
แม ้เราจะเหนด ้วยกับคาจากัดความทีว่า “การสนทนาทีมีจุดประสงค์” แต่เราก็ยังอยากทีจะขยายความ
่
ํ
ํ
่
ให ้ครอบคลุมองค์ประกอบอืนๆ ของการสัมภาษณ์
่
่
ประการแรก “การสนทนาทีมีจุดประสงค์” ควรดาเนินตามแนวทางทีเตรียมการไว ้ล่วงหน้า
่
ํ
ใ น ก า รบ รรลุ จุ ด ป ระ ส ง ค์ น้ น คุ ณ จ ะ ต ้ อ ง มี แ ผ น
ั
่
่
่
์
ซึ งโด ยป ก ติ แ ล ้ว ห ม า ยถึ งก า ร มี คู มื อ ก า ร สั ม ภ า ษ ณ ที มี โค ร งส ร้า งห รื อ แ บ บ แ ผ น
ั
่
โดยจะกล่าวถึงคูมือดังกล่าวในส่วนต่อๆ ไปของหนงสือเล่มนี ้
่
่
ป ระ ก า รที ส อ ง “ ก า ร ส น ท น า ที มี จุ ดป ร ะ ส ง ค์ ตา ม แ น วท า ง ที เ ตรี ย ม ก า ร ไ ว ้ล่ วง หน้า ”
่
ั
็
ประกอบด ้วยการสืบหาข ้อเทจจริง กระจายข ้อมูล และการปรบความคิดเหนหรือพฤติกรรม
็
้
่
์
การสัมภาษณจะประกอบไปด ้วยหนึง สอง หรือทั้งสามข ้อนี โดยขึนอยูกับสถานการณ ตัวอย่างเช่น
้
่
์
ก า ร สั ม ภ า ษ ณ ์ เ พื่ อ ก ํ า กั บ ดู แ ล จ ะ มุ่ ง เ น้ น ที่
็
็
็
่
็
ก าร หาข ้อ เ ท จ จ ริง ก าร สั ม ภ าษ ณ เ พือ ก าร คั ดเ ลือ ก จ ะ เ ป น ก าร หาข ้อ เ ท จ จ ริง เ ป น ห ลั ก
์
แ ม ้ ว่ าอ าจ มี ก าร สื อ ส า ร ข ้ อมู ล เ กิ ด ขึ น บ ้ า ง เ ล กน้ อย ก็ ต า ม
่
็
้
่
์
แ ล ะ ก า ร สั ม ภ า ษ ณ เ พื อ ป ร ะ เ มิ นผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ งา นจ ะ ร ว ม ทั้ งส า ม ข ้อ เ ข ้า ด ้ว ย กั น
็
โดยหาข ้อเทจจริงทีเปนสาเหตุของผลงานทีแย่หรือพอใช ้ แจ ้งให ้พนกงานทราบว่าตนเองปฏิบัติงาน
่
็
ั
่
เปนอย่างไร และโน้มน้าวให ้พฒนาตนเองในอนาคต
็
ั
่
ประการสุดท ้าย การสัมภาษณ์ยังครอบคลุมถึงสิ่งที่ไม่ได ้พูดออกมา (non verbal element) และสิงแวดล ้อม
ั
(Environmental element) นกจิตวิทยาบอกเราว่า การสัมภาษณน้นครอบคลุมปจจยต่างๆ เช่น
์
ั
ั
ั
ํ
สิงทีไม่ได ้แสดงออกมาเปนคาพูด (การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง เสือผ ้า ภาษากาย)
่
่
้
็
่
็
ั
่
และเงือนไขด ้านสิงแวดล ้อม (ระดับเสียงรบกวน ความเปนส่วนตัว การจดวางเฟอร์นิเจอร์)
่
ํ
์
่
้
็
ก าร ค านึ ง ถึ ง อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ เ ห ล่ านี เป น สิ ง สํ าคั ญ ผู้สั ม ภ าษ ณ ที มี ความ พ ร้อ ม
่
ํ
่
ํ
นอกจากจะต ้องมีทักษะในการตั้งคาถามทีดีและทาให ้ผู้อืนพูดถึงตัวเองอย่างตรงไปตรงมาได ้แล ้ว
่
้
็
็
ยังต ้อ งใ ส่ใจ เรื่องเลกๆ ที่มีค ว าม สํ าคัญเท่ากันอีก ด ้วย ไ ม่ว่า จ ะเ ปนเก ้าอีทีนงแล ้วสบาย
่
ั
์
่
่
่
กาแฟเพือให ้ผู้สมัครทีประหม่าได ้ผ่อนคลาย การพยักหน้ารบเพือกระตุ้นให ้ผู้ถูกสัมภาษณพูดอธิบาย
ั
็
ความคิดเหนต่อไป
อะไรคือสิงทีไม่ใช่การสัมภาษณ ์
่
่
5