Page 69 - หลักสูตร M1 ( Recruiting and Selection )
P. 69
Pacesetter
ํ
์
่
์
่
มีรูปแบบการสัมภาษณทีคุณเลือกใช ้ ได ้อยูสองแบบ ได ้แก่ การสัมภาษณแบบกาหนดโครงสร้าง (Directive
Interview) และการสัมภาษณแบบไม่กาหนดโครงสร้าง (Indirective Interview)
์
ํ
เ นื อ งด ้ ว ยเ ป นรู ป แ บ บ ที เ น้ นโค ร งส ร้ า งอ ย่ า งม า ก
่
็
่
์
ํ
การสัมภาษณแบบกาหนดโครงสร้างจึงมีแผนชัดเจนกาหนดไว ้ให ้ผู้สัมภาษณต ้องปฏิบัติตาม
์
ํ
ํ
ั
ํ
มีการเตรียมคาถามมาล่วงหน้า และจากัดเวลา บ่อยคร้งจะมีการใช ้รายการตรวจสอบ (Checklist)
ํ
ั
ทีพิมพ์ออกมาล่วงหน้าสําหรบบันทึกคาตอบของผู้ถูกสัมภาษณและการประเมินผลของผู้สัมภาษณ ์
่
์
่
่
ํ
่
แม ้รายละเอียดอาจแตกต่างกันไป แต่สิงหนึงทีจะไม่เปลียนแปลงในการสัมภาษณแบบกาหนดโครงสร้าง คือ
่
์
์
ํ
็
ั
ผู้สัมภาษณมีความรบผิดชอบหลักในการเปนผู้นาการสัมภาษณ ์
์
ั
ํ
่
การสัมภาษณแบบไม่กาหนดโครงสร้างน้นค่อนข ้างจะแตกต่างออกไป โดยมีทีมาจากผลงานของ Carl
็
Rogers ซึงเปนนกจิตวิทยาผู้พฒนาวิธีการบาบัดทางจิตทีคิดขึนมาโดยการสัมภาษณน้นจะ “เน้นลูกค ้า
ั
ั
่
่
ั
์
้
ํ
่
ํ
์
็
เปนหลัก” การสัมภาษณแบบนีมีโครงสร้างหรือแบบแผนทีน้อยกว่าแบบกาหนดโครงสร้าง ผู้สัมภาษณ ์
้
่
้
จะมีบทบาทน้อยลง ในขณะทีผู้ถูกสัมภาษณจะมีความรบผิดชอบมากขึนในส่วนของหัวข ้อและเปาหมาย
์
้
ั
์
่
ใ น ก าร สั ม ภ าษ ณ แ ต่ ล ะ คร้ ง อ ย่ าง ไ ร ก็ ดี ผู้สั ม ภ าษ ณ ก็ ยั ง คง มี ความ สํ าคั ญ อ ยู
ั
์
เนืองจากพวกเขาจะเปนผู้สร้างสภาพแวดล ้อมทีปลอดภัยเพือให ้ผู้ถูกสัมภาษณไม่รู้สึกอึดอัดทีจะพูดอย่างตร
่
์
่
่
็
่
งไปตรงมา
การสัมภาษณโดยทัวไปมักจะใช ้ทั้งสองรูปแบบรวมกัน โดยใช ้องค์ประกอบบางข ้อของแต่ละรูปแบบ
่
์
ให ้เหมาะสมกับสถานการณการสัมภาษณแต่ละคร้ง และบุคลิกภาพของตัวคุณเอง ตัวอย่างเช่น
์
์
ั
็
ํ
์
ํ
่
ก ารสัม ภ าษณเ พือ คั ด เ ลือ ก มัก เ ปนแบ บ ก าหนด โครงส ร้างม าก ก ว่าไ ม่กาหนดโค รงส ร้าง
เ นื อ ง จ าก มี สิ ง ที คุ ณ ต ้ อ ง ก าร ท ร าบ เ กี ย วกั บ ผู้ ส มั คร ม าก ม า ย
่
่
่
่
ํ
แ ล ะ แ นว ท า งแ บ บ ไ ม่ ก า ห นด โค ร งส ร้ า งค่ อ นข ้ า งใ ช ้ เ ว ล า ม า ก แ ล ะ
่
ไม่ค่อยตอบโจทย์เพือบรรลุเปาหมายนี ้
้
ในทางกลับกัน แนวทางแบบไม่กาหนดโครงสร้างอาจเหมาะกับการสัมภาษณเพือให ้คาปรึกษากับตัวแทน
ํ
่
ํ
์
ั
็
่
ั
่
้
ทีมีปญหามากกว่า เนืองจากช่วยอธิบายให ้ตัวแทนเข ้าใจได ้ชัดเจนขึนว่าพวกเขาต ้องเปนผู้รบผิดชอบ
่
ํ
่
ในการกาหนดทิศทางของการสัมภาษณและแก ้ปญหาในท ้ายทีสุด ไม่ใช่คุณ อย่างไรก็ดี นีไม่ได ้
ั
์
ํ
ํ
์
หมายความว่าการสัมภาษณแบบไม่กาหนดโครงสร้างเปนการสัมภาษณทีดาเนินไปได ้เองหรือไม่ต ้องมี
่
์
็
่
ก าร เ ตรี ย ม ตั ว ก าร เ ตรี ย ม ค ว าม พ ร้ อ ม น้ น ยั ง ค ง จ า เ ป น อ ยู
ั
็
ํ
ั
์
และผู้สัมภาษณจะต ้องรบผิดชอบตรวจสอบให ้แนใจว่าจะมีการพูดถึงจุดสําคัญทุกจุดในการสนทนา
่
์
ตักตวงประโยชน์จากประสบการณในการสัมภาษณ ์
ี
เ มือห ลา ย ป ก่อน D a vi d M a r ks , J r . , C LU ตัว แ ท น ทั่ว ไปข อ ง N e w E n g l an d L i fe
่
ได้บอกกับผู้ฟงในกลุมสมาชิก MDRT ว่า “ตัวแทนหลายคนทีอยูในธุรกิจนีมา 10 ปไม่ได้มีประสบการณถึง
้
์
่
่
่
ั
ี
1 0 ป ี แ ต ่ พ ว ก เ ข า
ํ
่
ี
้
่
มี ป ร ะ ส บ ก าร ณ หนึ ง ป ซํ ากั น 1 0 คร้ ง พ วก เ ข าก็ ท าสิ ง ต่ าง ๆ
์
ั
่
ํ
่
โดยใช ้ การท่องจาไม่ต่างจากสํานกงานใหญ่และบริษทตัวแทนทัวไปทีพวกเขากล่าวหา”
ั
ั
์
ั
คุณตระหนกถึงนิสัยในการสัมภาษณของคุณทั้งด้านดีและไม่ดีมากแค่ไหน คุณคอยประเมินเทคนิค
การสัมภาษณ์ของคุณและกาจัดเทคนิคที่ไม่ได้ผลอยู่เปนประจาหรือไม่ หรือคุณสัมภาษณโดยใช ้ การท่องจา
ํ
็
์
ํ
ํ
7