Page 9 - รายงานวิจัยชั้นเรียนปี 2562 กลุ่มสาระสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
P. 9
วัตถุประสงค์การวิจัย
ื่
1. เพอเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง
ื
มารยาทชาวพุทธ ของนักเรียนก่อนและหลังการใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมอโดยเทคนิค STAD
ื่
2. เพอเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง
ุ
มารยาทชาวพทธ ของนักเรียนก่อนและหลังการใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยเทคนิค STAD
กับเกณฑ์ ร้อยละ 70
สมมติฐานการวิจัย
1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง มารยาทชาวพทธ
ุ
หลังสูงกว่าก่อนการเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD
ุ
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง มารยาทชาวพทธ
หลังการเรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD สูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 70
ขอบเขตของการวิจัย
ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยศึกษาเฉพาะผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและ
วัฒนธรรม เรื่อง มารยาทชาวพุทธ เนื่องจากผู้เรียนมีผลการเรียนที่ต่ ากว่าเกณฑ์
กรอบแนวคิดในการวิจัย
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนา
การจัดการเรียนรู้แบบ STAD
และวัฒนธรรม เรื่อง มารยาทชาวพุทธ สูงขึ้น
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. การจัดการเรียนรู้แบบ STAD หมายถึง คะแนนฐาน หมายถึง คะแนนตั้งต้นของผู้เรียนแต่
ื่
ละคนที่ได้จากการหาค่าเฉลี่ยของคะแนนในแต่ละหน่วยการเรียนเพอน าคะแนนไปใช้ในการ
เปรียบเทียบหาค่าคะแนนในการพัฒนาตนเอง
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนที่ได้จากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง มารยาทชาวพทธ ซึ่งวัดจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ุ
ทางการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น