Page 59 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 59

๕๓


                      อีกประการหนึ่งถ้าสัตว์อายุน้อยกว่าร้อยปีลงมาก็หาเป็นการสมควรที่พระพุทธเจ้าจะลงไปตรัส

               รู้ไม่ เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายพวกนี้ยังมีกิเลสหนากล้านักจักรับโอวาทเพียงต่อหน้าลับหลังมาก็จะพา

               กันละทิ้งเสียไม่ผิดอะไรกับขีดรอยในน้ําก็จะกลับคืนดังเก่า ดังนั้นเล่ากาลที่เหมาะสมสําหรับการไป

               ตรัสรู้จึงอยู่ในระหว่างแสนปีลงมาและมากกว่าร้อยปีขึ้นไป


                                                                                         ั้
                      ประการที่สองก็คือพิจารณาทวีปใหญ่ทั้งสี่มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวารนนก็เห็นว่าโดยพุทธ
               ประเพณีอันพระพุทธเจ้าทั้งหลายจะมีพระประสูติกาลทุกพระองค์นั้นจะไปบังเกิดในชมพูทวีปแห่ง

               เดียวอันเป็นมัชฌิมประเทศที่ พระพุทธเจ้า พระป๎จเจกพุทธเจ้า พระอสีติมหาสาวก พระเจ้าจักรพรรด     ิ

               ราช แลชนผู้มีบุญญาธิการมากมักลงมาเกิดเป็นส่วนมาก


                      ประการที่สามพิจารณาประเทศอันเป็นสถานที่กําเนิด ในครั้งนั้นกรุงพาราณสีจะมีชื่อนคร

               ว่ามัณฑารนคร กว้างใหญ่ได้สิบสองโยชน์พวกมนุษย์ถอยถดอายุจากอสงไขยด้วยความประมาทเหลือ

               เพียงแปดหมื่นปี แลกรุงมัณฑารนี้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น เกตุมบดีนคร จักบริบูรณ์สถาพรด้วยวัตถุสิ่งของ

                                                          ี้
               ทั้งปวง จึงควรที่จะบังเกิดในกรุงเกตุมบดีนครน

                      ประการที่สี่พิจารณาถึงตระกูลอันสมควรตามประเพณีที่สมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมไป

                                                                                                     ั้
               บังเกิดในตระกูลอันชาวโลกนับถือ คือตระกูลกษัตริย์ ตระกูลพราหมณ์ตามที่เคยมีมา ก็ตอนนนแลถือ
               กันว่าตระกูลพราหมณ์ประเสริฐเลิศที่สุด จึงสมควรที่จะลงไปบังเกิดในตระกูลพราหมณ์ซึ่งเป็นปุโรหิต

               ผู้ใหญ่ของพระเจ้าสังขจักร


                                                                        ิ
                      ประการที่ห้าสุดท้ายพิจารณาว่าผู้ใดควรจะเป็นพุทธบดาพุทธมารดาที่บําเพ็ญบารมีนับ
               เนื่องกัน ก็รู้ว่าสุพรหมพราหมณ์นั้นควรเป็นพุทธมารดา นางเหมวดีพราหมณีควรที่จะเป็นพุทธมารดา

               ขอรับพระคุณเจ้า ส่วนนางอนุลาเทวีเป็นคู่สร้างบารมีของข้าพระองค์จะได้เป็นอัครมเหสีมีนามว่า นาง

                                                                ุ
               จันทมุขี โอรสคือเจ้าสาลีพระโอรสแห่งพระเจ้าอภัยทฏฐคามินีสร้างบารมีร่วมกันมาจะได้เป็นโอรสมี
               นามว่า พรหมวดีกุมาร





                      กาลที่ข้าพระองค์จะออกผนวชนั้นจะมีเทวฑูตสําแดงบุพนิมิต ๔ ประการ คือคนแก่ คนเจ็บ

               คนตาย แลนักบวช ปราสาทที่อยู่ของข้าพระองค์จักลอยไปกลางอากาศ เมื่อข้าพระองค์ผนวชแล้ว

               บําเพ็ญเพียรประมาณเจ็ดวันตกวันที่เจ็ดจะไปนั่งทควงไม้กากะทิงแล้วได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธ
                                                             ี่
               เจ้าเพื่อโปรดสัตว์ ขอรับพระคุณเจ้า "
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63   64